เอเวอร์แลนด์ ปลื้ม!โชว์ยอดขายบ้านเดี่ยวโครงการ “ SILVERLAKE VIND ” เฟสแรกกว่า 85% ผลตอบรับดีเยี่ยม พร้อมเดินหน้าเปิดเฟสสองต่อทันที จำนวน 33 ยูนิต โชว์จุดเด่นความคุ้มค่า ฟังก์ชันครบ ธรรมชาติหลายล้อม และตอบโจทย์ดีมานด์แนวราบคึกคัก ฟากบิ๊กบอส “สวิจักร์ โลจายะ” ระบุแนวราบแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ชี้เป็นตลาดเรียลดีมานด์ กอด Backlog รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท หนุนผลงานปีนี้โตแกร่ง
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) เปิดเผยว่า โครงการบ้านเดี่ยว ซิลเวอร์เลค วินด์ “ SILVERLAKE VIND ” สุวินทวงศ์ ภายใต้แบรนด์ “ มายโฮม ซิลเวอร์เลค” ซึ่งได้เปิด PRE -SALE ไปเมื่อวันที่ 11- 12 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ในงาน “มหัศจรรย์ริมน้ำ” เลือกแปลงสวยก่อนใคร พร้อมรับ Double Bonus สูงสุด 300,000 บาท ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฟสแรกที่เปิดขายจำนวน 32 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 85% ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถปิดยอดขายของเฟสแรกได้หมดภายในเดือนกรกฎาคมนี้
“โครงการ ซิลเวอร์เลค วินด์ เราสามารถปิดยอดขายได้เร็ว กระแสตอบรับดีมาก น่าจะเกิดจากลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ ที่มองหาบ้านเดี่ยว และยังตอบโจทย์ความคุ้มค่า ทั้งทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ ภายในโครงการยังให้ความสำคัญกับธรรมชาติ ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นและสดชื่น รวมทั้งวิวทะเลสาบที่มีประมาณ 60 ไร่ นอกจากนี้เรามองว่าศักยภาพของโครงการและพื้นที่ย่านสุวินทวงศ์ จะเป็นแลนด์มาร์คที่อยู่แห่งใหม่ในอนาคต ล่าสุดการก่อสร้างและการเปิดขายของเฟสสองที่มีจำนวนราว 33 ยูนิต มียอดขายเพิ่มเติมเข้ามาอีกจำนวน 18% ทำให้ภาพรวมของการขายทั้งเฟสแรกและเฟสสองอยู่ที่ประมาณ 51% จากจำนวนที่เปิดขาย 65 ยูนิต โดยโครงการ ซิลเวอร์เลค วินด์ มีจำนวนทั้งหมด 177 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ การก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2568 ” นายสวิจักร์กล่าว
ทั้งนี้โครงการ“ ซิลเวอร์เลค วินด์ จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 แบบ บนพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 100 ตารางวา ในราคา 5.69 -12 ล้านบาท ขณะที่ภายในจะเน้นฟังก์ชันการใช้สอยที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ออกแบบบ้านได้อย่างลงตัว บ้านใหญ่ ฟังก์ชันครบ รองรับห้องทำงานและห้องนอนผู้สูงอายุ และยังมีจุดเด่น เป็นบ้านเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ 60 ไร่
สำหรับในปี 2566 บริษัทฯ คาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงาน น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีโครงการแนวราบเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโต และมองว่าการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของภาคธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกำลังซื้อของผู้บริโภคน่าจะกลับมาได้ นอกจากนี้บริษัทฯ มียอดขายรอโอนรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ถึงปีหน้า รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวสูง และแนวราบ อีกด้วย