เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวโครงการ “เดอะ ซิตี้ ภูเก็ต” คอนโดมิเนียมหรูระดับลักชัวรี่พร้อมอยู่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ PEARL LUXURY ดุจดั่ง CONCELTUAL บนสุดยอดทำเลศักยภาพที่จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,260 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High End ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยชูจุดเด่นทำเลที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท คาดเริ่มเปิดขายโครงการในปี 2566
รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WORLD เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ล่าสุด คือ โครงการ “เดอะ ซิตี้ ภูเก็ต” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High End ทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งโครงการ “เดอะ ซิตี้ ภูเก็ต” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูพร้อมอยู่อาศัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่มุกอันดามัน และทำเลที่ตั้งใจกลางแหล่งธุรกิจของเมืองภูเก็ต ทำเลที่ตั้งที่สะดวกในการเดินทางจากที่พักสู่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรมของเมืองภูเก็ต ดีไซน์ภายใต้แนวความคิด PEARL LUXURY ดุจดั่ง CONCELTUAL มูลค่าโครงการประมาณ 1,260 ล้านบาท พื้นที่ 2-3-34.1 ไร่ คาดว่าจะเริ่มเปิดขายโครงการได้ในปี 2566 โดยผู้พัฒนาโครงการ คือ บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเจ้าของโครงการ คือ เดอะ ซิตี้ ภูเก็ต บาย เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น
ทั้งนี้โครงการ เดอะ ซิตี้ ภูเก็ต ประกอบด้วย อาคาร Low-Rise แบ่งเป็น 2 อาคาร จำนวน 171 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 31 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท ประเภทห้องตกแต่งพร้อมอยู่, ตกแต่งบิ้วอิน และ ห้องเปล่ามีโฮมเธียเตอร์ คาราโอเกะส่วนตัว สระว่ายน้ำ สกายเลาจน์ ลิฟต์ ประตูคีย์การ์ดและระบบลิฟต์เฉพาะชั้น ห้องซักรีด ล็อบบี้ กว้างขวาง ห้องประชุม และที่จอดรถที่รองรับผู้พักอาศัยได้มากถึง 46% (80 คันภายในอาคาร) พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีห้องชุด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน แบ่งเป็นอาคาร A มีจำนวนทั้งสิ้น 68 ยูนิต และอาคาร B มีจำนวนทั้งสิ้น 103 ยูนิต และ Villa จำนวน 4 ยูนิต
“แม้ธุรกิจอสังหาฯ จะเป็นวัฏจักรมีขึ้นมีลง แต่เชื่อว่าในช่วง 2-3 ปีจากนี้ ธุรกิจอสังหาฯ ภูเก็ต จะเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าโครงการต่างๆ ที่ขึ้นในช่วงนี้ ทั้งโครงการแนวราบ และแนวสูงจะสามารถขายได้อย่างแน่นอน แม้แนวโน้มในอีก 5-6 ปีข้างหน้า ตลาดอาจจะถดถอยลงบ้าง แต่หากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ส่งผลกระทบอย่างหนัก ตลาดไม่น่าจะอยู่ในช่วงขาลงมากนัก ซึ่งมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะบุกตลาดในภูเก็ตให้มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจอสังหาฯ ในภูเก็ตยังสดใส ” รศ.ดร.จิรศักดิ์ กล่าว
