เอกชัยการแพทย์ ส่งสัญญาณแนวโน้มธุรกิจและผลงานไตรมาส 2/2566 เติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากยอดผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) เข้ารับบริการศูนย์บริการทางการแพทย์ล้นทะลัก และมีศักยภาพด้านการบริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรเพิ่มขึ้น รวมถึงมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการครองเตียงเต็มเกือบ 100% ฟาก “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ระบุภายหลังจากยกระดับให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงได้ขยายการลงทุนด้านสุขภาพ ทำให้มั่นใจภาพรวมธุรกิจติดปีกแข็งแกร่ง ผลักดันผลงานปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร จากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 78.34 ล้านบาท และรายได้รวมเท่ากับ 300.17 ล้านบาท เนื่องจากยังได้รับปัจจัยบวกจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราการครองเตียงเต็มเกือบ 100% อีกทั้งการเข้ารับการรักษาตามศูนย์บริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ รวมถึงโรงพยาบาลคูน ช่วยสนับสนุนรายได้เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ขยายศูนย์กุมารเวช ศูนย์หูตาคอจมูก ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์กายภาพบำบัด ศูนย์ไต ทำให้มีขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้เพิ่มขึ้น ส่วนศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ซึ่งคาดว่าลูกค้าชาวต่างชาติ มีแนวโน้มเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ทำให้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่างๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง โดยมีแผนขยายเตียงเพิ่มจากเดิม 142 เตียงเป็น 200 เตียง และออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพภายใต้แบรนด์ของโรงพยาบาลเอกชัย เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ เพื่อผลักดันให้รายได้ปี 2566 เติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 10%
“ภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส2 ปีนี้ ยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากผู้ป่วยจากโรคทั่วไปเข้ารับบริการทางการแพทย์ด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้นซึ่งถือว่ากลับเข้าสู่สภาวะปกติ ของจำนวนผู้ป่วย IPD และ OPD ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”นายแพทย์อำนาจกล่าวในที่สุด