“แกรนด์ แอสเสทฯ” เผยภาพรวมธุรกิจส่งสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาสแรก ธุรกิจโรงแรมดีขึ้นรวดเร็ว สร้างรายได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 321% โรงแรมกรุงเทพราคาขายต่อห้องเพิ่มขึ้นกว่า 50% การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนเป็นปัจจัยบวก ส่วนธุรกิจอสังหาฯ เตรียมขายคอนโด “ไฮด์ สุขุมวิท 11” บิ๊กล็อต 600 ล้าน ส่งผลให้ปิดโครงการได้ในปีนี้ ขณะที่คอนโดร่วมทุน “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” มี ยอดขายรอโอนแล้ว 900 ล้านบาท คาดทำรายได้ตามเป้า 2,000 ล้านบาท
นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจของบริษัทในไตรมาสแรกว่า ทั้งธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี สำหรับธุรกิจโรงแรมไตรมาสแรกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถทำรายได้มากกว่าที่คาดการณ์ มีกำไรจากการดำเนินการ ขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการกลับเข้ามาซื้อเพื่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอย่างชัดเจน
“ภาพรวมธุรกิจโรงแรมไตรมาสแรกของปี 2566 สามารถสร้างรายได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 321% ซึ่งมีปัจจัยบวกหลักคือสถานการณ์โรคระบาดที่กลับคืนสู่ภาวะปรกติ และการกลับมาของตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่มีนัยยะสำคัญต่อการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพทั้ง 3 แห่ง ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังรองรับกลุ่มนักธุรกิจ ทำให้อัตราเข้าพักเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอัตราเข้าพักเฉลี่ยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ 72% รวมถึงราคาขายต่อห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เดือนมีนาคมที่ผ่านมายังมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ สยามยอชท์คลับ ห้องอาหารและสถานที่แฮงค์เอาท์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ขนาดพื้นที่กว่า 600 ตร.ม. ประกอบด้วยโซนที่นั่งเอ้าท์ดอร์ 150 ที่นั่ง ภายในห้องปรับอากาศ 50 ที่นั่ง และห้องวีไอพี “กัปตันบุช” 12 ที่นั่ง ด้วยจุดเด่นของบรรยากาศทั้งวิวสองฟากฝั่งแม่น้ำ การเป็นจุดชมพลุที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ เมนูซิกเนเจอร์ และสีสันความสนุกสนานของดนตรีไลฟ์แบนด์ จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้กับโรงแรมนับจากนี้”
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไตรมาสแรกมีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท จาก 3 โครงการ คือ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ โครงการร่วมทุนกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี”, ไฮด์ สุขุมวิท 11 และ อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง โดยโครงการคอนโดมิเนียมไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ นอกจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ในไตรมาสแรกยังมีการกลับเข้ามาของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะนี้มียอดขายรอโอน (Backlog) แล้วที่ 900 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ตามเป้า 2,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการ ไฮด์ สุขุมวิท 11 ล่าสุดอยู่ในระหว่างการเจรจาขายแบบบิ๊กล็อต รวมมูลค่า 600 ล้านบาท ให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุน ส่งผลให้จะสามารถปิดการขายโครงการได้ภายในปีนี้ นับเป็นสัญญาณการรีบาวด์ที่ชัดเจนของธุรกิจอสังหาฯ