โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ หรือ CHG มุ่งสู่ความเป็นเลิศการให้บริการตรวจวินิจฉัยรักษาโรคมะเร็งอย่างครบวงจร เน้นการรักษาตรงจุด ด้วยการรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้า (targeted therapy) ทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงและเกิดผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อยกว่าการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด-การฉายแสง นับเป็นความหวังใหม่ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง
นายแพทย์เอกกมล ไพบูลย์วัฒนพงศ์ แพทย์อายุรกรรม สาขาอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ หรือ CHG เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคมะเร็งโลก ว่า โรคมะเร็งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก นับเป็นปัญหาสาธารณสุขของทุกประเทศในปัจจุบัน สำหรับประเทศไทยมีแนวโน้มอัตราการเกิดโรคมะเร็งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติ พบว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่ จำนวน 139,206 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิต 84,073 คนต่อปี เฉลี่ยทุก 6 นาทีจะมีผู้เสียชีวิต 1 คน นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง มีทั้งจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น กรรมพันธุ์ , การกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติในร่างกาย เป็นต้น และปัจจัยภายนอก จากพฤติกรรมการดำรงชีวิตและสภาพแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง รวมถึงมลพิษต่าง ๆ โดยปัจจุบัน 5 อันดับโรคมะเร็งที่พบมากในคนไทย ประกอบด้วย 1.มะเร็งตับ 2.มะเร็งปอด 3.มะเร็งท่อน้ำดี 4.มะเร็งเต้านม และ 5.มะเร็งระบบการหมุนเวียนเลือด ซึ่งโอกาสในการลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็ง คือการตรวจพบให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีการตรวจคัดกรอง หรือตรวจสุขภาพประจำปี เพราะมะเร็งสามารถรักษาได้ถ้าหากรู้ตัวเร็วและรักษาตั้งแต่ต้น
ศูนย์มะเร็งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เปิดให้บริการตรวจวินิจฉัยรักษาโรคมะเร็งทุกชนิด ด้วยวิธีการฉายแสง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การใช้ยาเคมีบำบัดเข้าไปทําลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้า (targeted therapy) ยับยั้งกลไกการทำงานของเซลล์มะเร็ง สำหรับประชาชนแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงได้มาตรฐานระดับสากล โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งประเมินความเสี่ยง การตรวจคัดกรอง การวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ รวมถึงการดูแลรักษาอย่างครอบคลุม พร้อมทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจากหลายสาขา ร่วมกำหนดแผนการรักษาที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งการผ่าตัด การฉายแสง การให้ยาเคมีบำบัด และการรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้า ตลอดจนทีมสหสาขาวิชาชีพ ทีมพยาบาลวิชาชีพและบุคลากรทางการแพทย์ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมดูแลสุขภายร่างกายและสภาวะจิตใจของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง ทั้งก่อนการรักษา ระหว่างการรักษา และหลังการรักษา ตลอดจนมีห้องปฏิบัติการ (Lab) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล
“โรคมะเร็งถือเป็นโรคที่รักษายาก มีความซับซ้อนและรุนแรง ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการรักษา ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ นับเป็นหนึ่งในศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ในการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนในการตรวจคัดกรอง การรักษาที่รวดเร็ว ต่อเนื่องและครบวงจร เพื่อเพิ่มโอกาสในการหายจากโรคมะเร็งหากตรวจพบในระยะแรก และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน” นายแพทย์เอกกมล กล่าว
ขณะที่ นายแพทย์ วิทวัส จันทร์ดำเนินพงศ์ แพทย์อายุรกรรม สาขาอายุรศาสตร์โรคเลือด กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดแข็งของศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ว่า ได้คำนึงถึงประสิทธิผลในการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วยสูงสุด ด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญการด้านมะเร็งโดยเฉพาะและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจากหลายสาขา รวมถึงความรวดเร็วในการวินิจฉัยและประมวลผล เพื่อวางแผนการรักษามะเร็งที่ตรงจุดให้เหมาสมกับผู้ป่วยแต่ละบุคคลและเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ตลอดจนช่องทางการสื่อสารกับผู้ป่วยที่หลากหลายช่องทาง
สำหรับการรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้า นับเป็นนวัตกรรมยาที่ใช้รักษามะเร็งแบบใหม่ ที่กำหนดเป้าหมายทำลายเฉพาะต่อเซลล์มะเร็ง เพื่อหยุดหรือชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งเท่านั้น โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติ ด้วยการใช้ยาเม็ดรับประทานหรือฉีดทางเส้นเลือด ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง มีอาการข้างเคียงต่อเซลล์ปกติของร่างกายค่อนข้างน้อยกว่าการฉายแสงและการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ที่ทำลายเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็งในร่างกายผู้ป่วย ซึ่งการรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้า สามารถใช้ยากลุ่มนี้เพียงอย่างเดียวในการรักษาโรคมะเร็งทุกชนิด หรือใช้ร่วมกับการรักษาแบบอื่น เช่น ยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง เป็นต้น แต่ทั้งนี้ใช่ว่าผู้ป่วยมะเร็งทุกรายคนจะสามารถใช้การรักษามะเร็งแบบใช้ยามุ่งเป้าได้ ต้องขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง รวมถึงการการมีตัวรับสำหรับยามุ่งเป้า และคำวินิจฉัยในการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาและเพิ่มโอกาสในการหายขาดจากโรคมะเร็ง
“การรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการรักษาและยั้บยั้งโรคมะเร็งอย่างตรงจุดในปัจจุบัน เพราะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการรักษา รวมทั้งช่วยให้ผู้ป่วยคลายความกังวลจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีการอื่น” นายแพทย์ วิทวัส กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญกับสุขภาพและลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทีมแพทย์ศูนย์มะเร็งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ขอแนะนำให้ดูแลใส่ใจตัวเองมากขึ้น ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตลอดจนการตรวจคัดกรองหาโรคมะเร็ง และหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งได้