กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ “สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค” (Snake Brand HerbaCeutic) ประเดิมรับต้นปี 2566 ด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ซีบีดี คาล์มมิ่ง โลชั่น 3 กลิ่น และสเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ซีบีดี มอยส์เจอไรซิ่ง แอนด์ โพรเทคชั่น ยูวี ไบรท์เทนนิ่ง บอดี้เซรั่ม เพิ่มทัพขยายไลน์ธุรกิจลุยตลาด CBD ครั้งแรก! ตอกย้ำคุณภาพสินค้า พร้อมยืนหนึ่งในเรื่องความเย็นและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบฉบับอังกฤษตรางู ผนึกพันธมิตร ซาลัส ไบโอซูติคอล ผู้นำธุรกิจสารสกัด CBD ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบโจทย์คนไทย ลดเครียด สร้างความผ่อนคลาย
คุณอนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางูเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ พร้อมเน้นย้ำเรื่องการพัฒนามาตรฐานโรงงานและคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางในการพัฒนาสินค้าว่าจะต้องเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภคและเป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม เข้ากับเทรนด์ตลาดและผู้บริโภค ล่าสุดจึงทำการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ “สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค” (Snake Brand HerbaCeutic) ประเดิมรับต้นปีด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ซีบีดี คาล์มมิ่ง โลชั่น (Snake Brand HerbaCeutic CBD Calming Lotion) 3 กลิ่น ประกอบด้วย กลิ่นยูคาลิปตัส กลิ่นเปปเปอร์มินต์ กลิ่นลาเวนเดอร์ โลชั่น CBD ทาและสูดดม ด้วยสารสกัด Premium CBD เสริมด้วยกลิ่นอโรม่า ในรูปแบบของเนื้อโลชั่น เพิ่มความผ่อนคลาย เติมอารมณ์ดีได้บ่อยทุกเมื่อที่ต้องการ และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คือ สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ซีบีดี มอยส์เจอไรซิ่ง แอนด์ โพรเทคชั่น ยูวี ไบรท์เทนนิ่ง บอดี้เซรั่ม (Snake Brand HerbaCeutic CBD Moisturizing & Protection UV Brightening Body Serum) เซรั่มบำรุงผิว ผสมสารสกัดจากกัญชง สูตรเข้มข้น เนื้อบางเบา บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ด้วยคุณสมบัติระดับนาโนจากเทคโนโลยีพิเศษ ซีบีดี ไฮยา นาโนเจล ผสานเซราไมด์เสริมเกาะป้องกันผิวให้แข็งแรง ล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน 24 ชม. และคุณค่าวิตามิน x3 (C, E, B3) ผสาน UVA UVB Filter ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ให้ผิวแลดูสว่างกระจ่างใส เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง สุขภาพดี
โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ นับเป็นครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู และซาลัส ไบโอซูติคอล ผู้นำธุรกิจสารสกัด CBD ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นครั้งแรกของการเพิ่มทัพขยายไลน์ธุรกิจลุยตลาด CBD ครั้งแรกของบริษัท! พร้อมตอกย้ำคุณภาพสินค้า ยืนหนึ่งในเรื่องความเย็นและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบฉบับอังกฤษตรางู หวังตอบโจทย์คนไทย ช่วยลดเครียด สร้างความผ่อนคลาย ตั้งเป้ายอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ภายในปีนี้ 2566 ไว้ที่ 200 ล้านบาท”
สำหรับ สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัด CBD เกรดพรีเมียม มาตรฐานเกรดทางการแพทย์ ครอบคลุมคุณภาพทั้งในเรื่องของ การปลูก ในระบบโรงเรือน (Green House) เพื่อควบคุมสภาวะการปลูกให้ได้วัตถุดิบที่มีสารสำคัญ เข้มข้นบริสุทธิ์ 99.99% การสกัด (Supercritical Ethanol Extraction) โดยสภาวะที่มีอุณหภูมิและความดันที่เหมาะสม จึงเป็นวิธีการสกัดที่มีประสิทธิภาพ การรับรองการผลิต ภายใต้มาตรฐานจากประเทศแคนาดา และในประเทศไทย ภายใต้การรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นอกจากนี้การนำพรีเมียม CBD มาผสมผสานกับความโดดเด่นของกลิ่นอโรม่า และความเย็นเฉพาะของตรางู ยังช่วยมอบความผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยปีนี้ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติคอีกมากมาย พร้อมตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายหลักไว้ที่ช่วงวัยทำงาน อายุระหว่าง 25-45 ปี หรือ กลุ่มแซนด์วิชเจเนอเรชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความกดดันมากที่สุด นอกจากนี้จากผลการสำรวจ (ข้อมูลจาก Cigna Well Being Survey 2019) ยังพบว่าปัจจุบันคนไทยมีความเครียดสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก จาก 23 ประเทศที่ทำการสำรวจ ซึ่งคนไทยถึง 91% ยอมรับว่าตัวเองมีความเครียดสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 84% จึงมั่นใจว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค จะเข้าถึงและตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
“ที่ผ่านมานอกจากอังกฤษตรางูจะทำการตลาดในไทยแล้ว ยังเติบโตในตลาดต่างประเทศอีกหลายประเทศ พร้อมกับการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เพื่อคิดค้นและพัฒนาสินค้าตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้นๆ รวมทั้งพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดียของแบรนด์ทุกช่องทาง โดยกัญชง นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่ได้รับความสนใจทั้งจากไทยและต่างประเทศ จากการคาดการณ์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มูลค่าตลาดกัญชงในไทยปี 2565 อยู่ที่ราว 7,200 ล้านบาท โดยอีก 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2568 นักวิเคราะห์จากสหรัฐฯ มองว่า ตลาดกัญชงไทย น่าจะอยู่ที่ราว 4 หมื่นล้านบาท และหากรวมทั้งอาเซียน คาดมูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาทในปี 2568 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ติด 1 ใน 5 อันดับความนิยม และจัดเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมกัญชงในไทย” คุณอนุรุธ กล่าวทิ้งท้าย
