ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็น Thailand 4.0 ภายใต้แนวคิดการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการดิจิทัลให้เท่าเทียมกับสากล พร้อมกับวางแนวทางสร้างสิ่งที่เรียกว่า “ระบบนิเวศทางด้านดิจิทัล (Digital Ecosystem)” ที่จะมาเชื่อมต่อฐานข้อมูลและบริการเข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลทั้งระดับประเทศและระดับองค์กร
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านการบริหารจัดการดิจิทัล ผ่านความร่วมมือขององค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่แต่ละองค์กรจะได้เข้ามาร่วมจุดประกายไอเดีย และวิเคราะห์เจาะลึก สู่การต่อยอดในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เปลี่ยนโฉมเพื่อก้าวสู่องค์กรแห่งดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ลิสา พัทธ์วิวัฒน์ศิริ รองผู้จัดการใหญ่ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “So, What’s the Plan for Digital Transformation” ในงาน Digital Transformation Forum 2022 ซึ่งจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เพื่อร่วมแบ่งปันเรื่องราวและแนวทางสู่การขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ดร.ลิสา เริ่มต้นว่า การทำ Digital Transformation คือการปลดล็อกศักยภาพองค์กรโดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสอดคล้องกับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะมีองค์ประกอบอยู่ 3 อย่าง หรือที่เรียกว่า 3P ได้แก่
1. Process กระบวนการทำงาน องค์กรจะต้องย้อนดูขั้นตอนการทำงานของตัวเองก่อน เพราะต่อให้มีการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด แต่ถ้าขั้นตอนยังซับซ้อนเหมือนเดิม ก็ไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายได้
2. Platform ช่องทางการใช้เทคโนโลยี ซึ่งบริษัทต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จะมีเทคโนโลยีไปเพื่ออะไร ช่องทางสู่กลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มใด จึงจะสามารถตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กรได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่แพงที่สุด แต่ต้องเหมาะสมที่สุด
3. People เรื่องบุคคลากรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด เพราะจะต้องเกิดการสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) ในการทำ Digital Transformation ร่วมกัน พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้คนในองค์กรเข้าใจว่าหุ่นยนต์ดิจิทัลจะไม่เข้ามาแย่งงาน เพราะไม่ใช่ทุกขั้นตอนของงานที่หุ่นยนต์จะสามารถทำแทนมนุษย์ได้ ดังนั้นคนจึงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำการตัดสินใจ จากความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าที่แท้จริง
ดร.ลิสา กล่าวว่า ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์จะมีการเปิดรับนักศึกษาฝึกงาน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำ Digital Transformation ผ่านสายงานด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะเล็งเห็นว่านักศึกษายุคนี้มีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการคิดนอกกรอบของเด็กรุ่นใหม่ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้สิ่งที่เราจะสอนเพิ่มเติมคือ ทักษะการทำงานร่วมกับคนที่มีความหลากหลาย และการ สร้างแนวทางให้เด็กรุ่นใหม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เพราะการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัลจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกคนขับเคลื่อนร่วมกัน
ดร.ลิสา ทิ้งท้ายว่า บริษัทจะต้องให้ความสำคัญในการสร้างรากฐานที่มั่นคง (Foundation) ผ่านความร่วมมือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เวลาจะทำโครงการสำคัญ ต้องปิดเป็นความลับ และถึงขั้นตั้งชื่อด้วยรหัสลับ หรือ Codename แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จะเห็นว่าตู้ ATM 1 ตู้เราสามารถกดเงินของธนาคารใดก็ได้ หรือจะโอนผ่าน Mobile App ก็สามารถโอนได้ทุกธนาคารทันที เพราะธนาคารทุกแห่งรวมถึงภาครัฐ เล็งเห็นว่านโยบายนี้ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือผู้บริโภค ดังนั้นการทำ Digital Transformation เราไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว แต่บริษัทสามารถส่งเสริมการบริหารจัดการดิจิทัล ร่วมกับภาครัฐ เอกชน หรือสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมวิเคราะห์และวางแนวทางสร้างจุดแข็งเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านดิจิทัลในอนาคต