“บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI วางโรดแม็พปี 2566 เดินหน้าจัดทัวร์นาเมนต์เกมแข่งรถเสมือนจริง Gran Turismo Sport (GT Sport) อีกอย่างน้อย 3 รายการ เตรียมจับมือพันธมิตรจัดแข่งขัน F1 Simulator แบบออนกราวด์ พร้อมรุกเปิดตัวการแข่งขันดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตเกมใหม่ Assetto Corsa คาดหนุนรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต (Digital Motorsports) ในปี 2565 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินจัดการจัดแข่งขันรวมทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่ การแข่งขันทัวร์นาเมนต์แบบออนไลน์ Gran Turismo Pro Series 2022 และรายการ B-Quik eRacing Team Challenge 2022 และล่าสุดได้ร่วมกับ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดการแข่งขัน F1 Simulator ในรูปแบบออนกราวนด์ ภายในงาน Motor Expo 2022 ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565
สำหรับแผนงานปี 2566 บริษัทฯ วางเป้าหมายยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการสานต่อความสำเร็จของเกม Gran Turismo Sport (GT Sport) ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดแข่งขันอีกอย่างน้อย 3 รายการ ประกอบด้วย รายการ Gran Turismo Pro Series 2023, รายการ B-Quick eRacing Team Challenge 2022 และรายการ Toyota GR eRacing พร้อมทั้งวางแผนที่จะต่อยอดการจัดแข่งขันเกม F1 Simulator ร่วมกับ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น อีกประมาณ 22 ครั้ง ในช่วงเวลาเดียวกับโปรแกรมการแข่งขันรถ F1 ของฤดูกาลหน้า ซึ่งตั้งใจว่าจะจัดในรูปแบบออนกราวด์ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมทเปิดตัวทัวร์นาเมนต์แข่งขันรายการใหม่ “Assetto Corsa” ที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิจัดแข่งขันในประเทศไทยโดยเป็นเกมแข่งรถเสมือนจริงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป ด้วยจุดเด่นที่เน้นความสมจริง เจาะกลุ่มผู้เล่นมืออาชีพ และมีรถยนต์ให้เลือกขับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอยู่ภายใต้การรับรองมาตรฐานการจัดแข่งขันของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ Federation International de Automobile (FIA) คาดว่าจะเริ่มจัดการแข่งขันในประเทศไทยเดือนมีนาคม 2566
“มั่นใจว่าดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ GPI อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งโมเดลการสร้างรายได้จะมาจากการจัดหาสปอนเซอร์เพื่อสนับสนุนทัวร์นาเมนต์เป็นหลัก โดยคาดว่าในปี 2566 บริษัทฯ จะมีรายได้รวมจากธุรกิจดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 5 ล้านบาท พร้อมรักษาความเป็นผู้นำการจัดแข่งขันดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง” นายอโณทัย กล่าว
