‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ ชูหลักการดำเนินงาน ESG รุกตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาสสุดท้ายของปี ผ่านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดพร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงจากต้นทุน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นใจปีนี้ขยายตัว 5% ได้ตามเป้าหมาย
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของ DRT ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ Sustainable Development ภายใต้หลัก ESG ที่มุ่งดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคมและการกำกับกิจการที่ดี เป็นแกนดำเนินงานในการเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันการทำธุรกิจและบริหารจัดการความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น ราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงาน เป็นต้น ที่ส่งผลต่อการดำเนินงานจากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่ทรงตัวในระดับสูง เพื่อให้ DRT สามารถขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ DRT ได้ใช้หลัก ESG เพื่อดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่มีความหลากหลายสามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง พร้อมฉลากการรับรอง ‘Diamond Green Product สินค้าและบริการตราเพชรเพื่อสิ่งแวดล้อม’ สำหรับตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและรักษาความเป็นผู้นำตลาดและรับมือความท้าทายของต้นทุนการผลิตที่คงทรงตัวในระดับสูง โดย DRT ได้ดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการผลิตในทุกด้าน
“เรานำหลัก ESG มาเป็นแกนขับเคลื่อนการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความท้าทายในเชิงการจัดการเพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น และผลักดันการเติบโตปีนี้ให้ได้ 5% ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสาธิต กล่าว
นายสุนทร สุวรรณเจตต์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการผลิตและวิศวกรรม DRT กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ดำเนินการภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ โครงการระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โครงการบริหารจัดการด้านพลังงาน ด้วยกระบวนการ 3R (Reduce Reuse Recycle) เพื่อบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ทั้งลดใช้พลังงานและนำพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซ CO2ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก การนำเศษวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ การลดความสูญเสียในระหว่างกระบวนการผลิต โดยมีเป้าหมาย Zero Waste ลดปริมาณขยะจากการกระบวนการผลิตให้เหลือ 0% ภายในปี 2573 รวมถึงยังได้ดำเนินโครงการนวัตกรรมและระบบอัจฉริยะ ที่มีการลงทุนติดตั้ง Robotic และระบบ Automation ทดแทนการใช้เพิ่มแรงงาน และนำระบบ IOT เข้ามาปรับใช้เพื่อยกระดับโรงงานสู่ Smart Factory เพิ่มความสามารถด้านการผลิตและลดต้นทุน ส่งเสริมความสามารถการแข่งขันในการทำตลาดของ DRT และสนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน