ธนชาตประกันภัย ระบุสถานการณ์อุทกภัยปีนี้ส่งสัญญาณแนวโน้มลูกค้าแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์สูงกว่าปีที่ผ่านมา เผยยอดพีคสุดเพียงแค่ 10 วันของเดือนกันยายน รับเคลมแล้วกว่า 576 คัน ขณะที่ประกันภัยบ้านเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แจ้งขอรับความคุ้มครองความเสียหายแล้ว 9 หลัง ยืนยันพร้อมให้บริการช่วยเหลือลูกค้าเต็มที่ ทั้งบริการจุดจอดรถ บริการรถยกฟรี พร้อมทีมดูแลให้คำปรึกษาและรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมในปีนี้ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การจัดจุดจอดรถที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมไว้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 14 แห่ง และที่ จ.เชียงใหม่, ขอนแก่น,อุบลราชธานี, ชลบุรี และระยอง ซึ่งลูกค้าในพื้นที่และใกล้เคียงสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ยังพร้อมรับแจ้งเหตุและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการดูแลรถในระหว่างประสบอุทกภัยในพื้นที่ บริษัทฯ มีบริการรถยกฟรีสำหรับลูกค้าที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท และได้ประสานงานไปยังอู่รถยนต์และศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดซ่อมรถยนต์ ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่งนอกจากการซ่อมแซมภายนอกและภายในรถยนต์แล้วยังมีการดูแลให้ได้รับบริการทำความสะอาดรถยนต์จากอู่และศูนย์ซ่อมอีกด้วย
“แนวโน้มของรถยนต์ที่จะเคลมประกันภัยเพื่อรับความคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมในปีนี้ คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยประเมินจากยอดเคลมล่าสุดช่วงระหว่างวันที่ 5 – 15 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ มีรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ ดำเนินการเคลมประกันไปแล้วประมาณ 576 คัน ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดบริการรถยกให้กับลูกค้าที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เพื่อนำรถยนต์ของลูกค้าออกจากพื้นที่ หากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายไม่มาก ก็จะนำเข้าซ่อมให้มีสภาพดีเหมือนเดิม แต่หากเกิดความเสียหายที่มากเกินกว่า 70% ก็จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากความสูญเสียโดยสิ้นเชิง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความพึงพอใจในบริการจากลูกค้าทุกราย นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยหรือประกันภัยรักบ้าน (Happy Home) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน โดยมีจำนวนบ้านที่เคลมประกันแล้ว 9 หลังคาเรือน โดยเป็นกลุ่มที่ซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ซึ่งสามารถติดต่อเคลมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินได้ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ และสำหรับผู้ที่ทำประกันภัยรักบ้าน (Happy Home) ยังจะได้รับความคุ้มครองสำหรับการขนย้ายซากทรัพย์สินที่เสียหายให้อีกด้วย” นายพีระพัฒน์ กล่าว
เราขอยืนยันและให้ความมั่นใจกับลูกค้าทุกรายว่า พร้อมดูแลช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเต็มที่ ตลอดจนให้ทีมงานเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกจังหวัดทั่วไทย พร้อมยึดแนวปฏิบัติของสำนักงาน คปภ. ในการใช้เกณฑ์ประเมินการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม แบ่งเป็น 5 ระดับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้งอุตสาหกรรมประกันภัยในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี