บมจ. วิลล่า คุณาลัย ท็อปฟอร์ม รายได้รวม 6 เดือนแรกปี2565 แตะ 545.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิที่ 75.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8 % (YoY)พร้อมโชว์ยอดขาย 6 เดือนแรก แตะ 745.9 ล้านบาท คิดเป็น 44% ของเป้ายอด Pre-Sale ทั้งปี 1,700 ล้านบาท ส่งซิกมั่นใจ ยอด Pre-Sale ปีนี้ จ่อทำ New High 2 ปีซ้อน ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร”เดินเกมรุก ครึ่งปีหลัง อัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย เล็งเปิดปักหมุดแลนด์มาร์คแห่งใหม่โซนบางขุนเทียน “คุณาลัย นาวาร่า” มูลค่า 3,500 ล้านบาท ตอกย้ำปีนี้รายได้โต10-15% ตามเป้าที่วางไว้
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 545.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และกำไรสุทธิ เท่ากับ 75.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.8% (YoY) ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 สิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2565 มีรายได้รวม เท่ากับ 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 37.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% (YoY)
สำหรับปัจจัยที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2565 เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากความต้องการบ้านแนวราบยังมีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ส่งผลให้ลูกค้า มีความต้องที่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบทุกมิติ ประกอบกับปัจจัยความกังวลกรณีที่แนวโน้มที่อยู่อาศัยมีโอกาสปรับระดับราคาสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่ประกอบกับ มีมาตรการสนับสนุนการซื้อบ้านจากภาครัฐ ทั้งมาตรการผ่อนคลายมาตรการ LTV และ การลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนจำนอง สำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะสิ้นสุดในปี2565 ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นยิ่งกระตุ้นการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในงวด 6 เดือนแรก อยู่ที่ระดับ 745.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่ทำได้ 730.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.15 % คิดเป็น 44 % ของเป้ายอดขาย (Pre-Sale) ทั้งปี ที่บริษัทฯตั้งไว้ที่ 1,700 ล้านบาท
“ช่วงครึ่งปีแรก 2565 บริษัทฯรับรู้รายได้ จากโครงการที่ได้เปิดขายไปแล้ว ประกอบด้วย โครงการคุณาลัย พรีม ซึ่งรับรู้รายได้เข้ามาแล้วกว่า 64%,โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 สามารถรับรู้รายได้แล้วกว่า17% ส่วน โครงการคุณาลัย พาร์โก้,โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 และโครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด มีการรับรู้รายได้เข้ามาร่วมกันเฉลี่ยกว่า 19 % ส่งผลให้ยอดขายในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 745.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่ทำได้ 730.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.15% คิดเป็น 44% ของเป้ายอดขาย (Pre-Sale) ทั้งปี โดยปี 2565 บริษัทตั้งยอด Pre-Sale ไว้ที่ 1,700 ล้านบาท ”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “KUN” กล่าวตอกย้ำว่า จากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารงาน รวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับปี2565 มีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น 10 – 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเป้ายอด Pre-Sale ที่แตะระดับ 1,700 ล้านบาท และหากได้ตามเป้าที่วางไว้ ถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ ต่อเนื่องจากปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโต New High 2 ปีซ้อน พร้อมทั้งยังได้กล่าวถึง โครงการคุณาลัย เดซี่ เพิ่มเติมว่า ล่าสุดโครงการดังกล่าว สามารถทำยอดขายได้แล้ว 125ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการคุณาลัย พรีม ที่ขายดีสุดของบริษัทฯโดยจะเริ่มโอนในไตรมาส 4/2565 ขณะที่โครงการคุณาลัย พาร์โก้ ที่เปิดตัวไปช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ก็เริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าอย่างมาก ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ จากทั้ง 2 โครงการนี้ สำหรับปี2565 ไว้ที่ 300 ล้านบาท
สำหรับทิศทางในครึ่งปีหลัง บริษัทฯได้วางกลยุทธ์การทางตลาดเพื่อกระตุ้นการขาย รวมถึงกำลังซื้อที่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ภายใต้การออกแคมเปญโปรโมชั่น อาทิ โปรฟ้าลั่น ฟรีของแถม 15 รายการ สำหรับโครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 ซึ่งเป็นบ้านทาวน์โฮม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการทยอยออกแคมเปญอื่นๆ ออกมาต่อเนื่อง
“ปัจจัยแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ยอมรับว่า จะส่งผลกระทบต่อการกู้ซื้อบ้าน โดยดอกเบี้ยที่เพิ่มทุก1% จะทำให้ภาระการผ่อนสินเชื่อบ้านปรับขึ้นอีกประมาณ 5% – 13% ของยอดผ่อนต่อเดือน (ขึ้นกับระยะเวลาในการผ่อน) ทำให้ผู้ซื้อบ้านมีค่าผ่อนบ้านสูงขึ้นกว่าเดิม หรือถ้าจะคงค่าผ่อนเท่าเดิมก็จะต้องใช้เวลาในการผ่อนยาวขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้า ในทางกลับกันจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนคลายมาตรการ LTV ยังคงเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจในการซื้อบ้านของลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ภายในไตรมาส4/2565 บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการคุณาลัย นาวาร่า โซนบางขุนเทียน พระราม 2 มูลค่า 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดขายได้ในไตรมาส 1/2566 โดยคาดว่าโครงการจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากรูปแบบของโครงการ รูปแบบบ้านในโครงการ ฟังก์ชันของบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้านและขนาดที่ดิน รวมถึงระดับราคาขายเริ่มต้นของโครงการ ทั้งนี้ยอมรับว่าโซนบางขุนเทียน มีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงห้างสรรพสินค้าเดิม รวมถึงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ นอกจากนี้มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมใหม่ๆ อาทิ ทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตกและทางยกระดับลอยฟ้าบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว โดยทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 2567 และปี 2568 ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้าไปในโซนเมืองสะดวกมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทฯมองว่าโครงการคุณาลัย นาวาร่า จะเป็นอีก 1 แฟลกชิป (Flagship) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรือธงของ”คุณาลัย”
สำหรับดีมานด์กลุ่มผู้บริโภคในโซนที่ “คุณาลัย ” พัฒนาอยู่ทั้ง 3 โซน(บางบัวทอง ฉะเชิงเทรา และบางขุนเทียน) ในปัจจุบันถือว่ามีดีมานด์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกโซนมีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้า ถนนวงแหวน ทางด่วนใหม่ ทำให้มั่นใจว่าเราจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายของปี 2565 และจะทะยานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานรายรับในอนาคตให้เติบโตยิ่งขึ้น