นกแอร์ ขยายเวลาเที่ยวบินอู่ตะเภา ถึง 31 ส.ค. 64 พร้อมให้บริการเข้า-ออกภูเก็ต
จากแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศยานในเส้นทางบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 3) ที่ห้ามสายการบินรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งเป็นฐานการบินหลัก สายการบินนกแอร์ได้เพิ่มฐานการบินใหม่และเริ่มทำการบินจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายการบิน เหนือ กลาง อีสาน ใต้ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุด
เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการเดินทางเร่งด่วนทางการแพทย์และการเคลื่อนย้ายบุคลากรที่จำเป็น การขนส่งอวัยวะเพื่อช่วยชีวิต รวมถึงความจำเป็นในการเดินทางต่างๆที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สายการบินนกแอร์จึง ขยายระยะเวลาให้บริการจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาทุกเส้นทางออกไปจนถึง 31 สิงหาคม 2564 นี้ (ระหว่างอู่ตะเภา – เชียงใหม่, อุบลราชธานี, อุดรธานี, นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต)
นอกจากนี้ สายการบินนกแอร์พร้อมเพิ่มทางเลือกในการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตสำหรับกลุ่มบุคคลที่ได้รับการยกเว้นจากคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 4627/2564 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2564 ให้สามารถเดินทางทางอากาศจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาได้ สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตครบ 14 วัน สามารถเดินทางออกได้ตามปกติ
ผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางในเที่ยวบินเข้า-ออกจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาระหว่างวันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2564 สามารถตรวจสอบตารางบินและสํารองที่นั่งได้ที่ www.nokair.com, Nok Air Mobile Application หรือ โทร 1318
กลุ่มบุคคลที่ได้รับการยกเว้นจากคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 4627/2564 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2564
1. รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย
2. ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์
3. ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ หรือการขนส่งที่จำเป็นอื่นๆ ต่อการดำรงชีพ
4. ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง
5. ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน
6. ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์
7. ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง
8. ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ เพื่อนำเข้า – ส่งออกสินค้า ณ ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต, ท่าเรือคลังน้ำมันปตท.ภูเก็ต และพื้นที่ขนถ่ายสินค้าอื่น ๆ
9. ขนส่งเครื่องมืออุปกรณ์ วัสดุ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนประกอบซ่อมบำรุงพื้นฐานด้านโทรคมนาคม พลังงาน ยานยนต์ อากาศยาน และการอุตสาหกรรมอื่นๆ
10. ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นการประจำ (มีเอกสารยืนยัน)
11. ผู้เดินทางมาตามโครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และผู้ขับขี่ยานพาหนะ(มีเอกสารยืนยัน)
12. ผู้ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต
13. ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
14. ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสารของวันที่เดินทางเท่านั้น)
15. ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
16. กรณี ผู้มีเหตุจำเป็นอื่นๆที่ไม่สามารถเลื่อนกำหนดนัดหมายได้ หรือกรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี
มาตรการเพิ่มเติมอื่นๆอาจมีการประกาศภายหลัง โปรดตรวจสอบคำสั่งจังหวัดภูเก็ตล่วงหน้าทุกครั้งก่อนเดินทาง