“GrabExpress 4 Hours” ชูจุดเด่นราคาเหมา 59 บาท ส่งไวใน 4 ชั่วโมง
แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านซูเปอร์แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภค เปิดตัว “GrabExpress 4 Hours” บริการรับส่งพัสดุด่วนภายในเวลา 4 ชั่วโมงด้วยราคาเพียง 59 บาท ขานรับตลาดอีคอมเมิร์ซโตแบบก้าวกระโดด ชู 3 จุดเด่น “ย่อมเยา ยืดหยุ่น ปลอดภัย” เล็งเจาะกลุ่มร้านค้าออนไลน์ (Social Seller)
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาเกือบสองปี ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทุกด้าน คนหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์นั้นมีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้ จากรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2563 โดย Google, Temasek และ Bain & Company ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตที่รวดเร็วอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด โดยในปี พ.ศ. 2563 มีมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตขึ้น 81% จากปีก่อนหน้า และคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตถึง 2.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า”
“เทรนด์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้มีปริมาณความต้องการของบริการจัดส่งสินค้า-พัสดุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องมีทั้งความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและมีราคาที่ย่อมเยา ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย จึงได้เปิดตัว ‘GrabExpress 4 Hours’ บริการจัดส่งสินค้า-พัสดุภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมงด้วยแกร็บเอ็กซ์เพรส ในราคาเริ่มต้นเพียง 59 บาท ซึ่งถือเป็นบริการรูปแบบใหม่ล่าสุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยปิดจุดอ่อนของบริการจัดส่งพัสดุด่วนแบบเรียลไทม์ (Instant Delivery) ที่มีราคาค่อนข้างสูง และบริการจัดส่งสินค้าในวันถัดไป (Next Day Delivery) ที่แม้ราคาค่าบริการจะถูกกว่าแต่ลูกค้าต้องรอนานข้ามวัน โดยบริการ GrabExpress 4 Hours นี้มาพร้อมจุดเด่น 3 ด้านที่สร้างความแตกต่าง ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันใจและประหยัดต้นทุนไปพร้อมๆ กัน”
จุดเด่น 3 ประการของบริการ GrabExpress 4 Hours ประกอบด้วย
ประการแรกราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ (Affordability): ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 59 บาทซึ่งเป็นราคาเหมาสำหรับการจัดส่งสินค้าหรือพัสดุขนาดเล็กภายในระยะทาง 15 กิโลเมตรแรก โดยใช้เวลาจัดส่งถึงมือลูกค้าเพียง 4 ชั่วโมงนับจากเวลาที่กดใช้บริการ (อัตราค่าบริการจัดส่งเพิ่มขึ้นกิโลเมตรละ 10 บาทตั้งแต่ระยะทาง 15 – 30 กิโลเมตร)
ประการที่สองความยืดหยุ่นในการให้บริการ (Flexibility): สามารถเรียกใช้บริการจัดส่งได้ตลอดวันตั้งแต่ 08.00 – 18.00 น. (สำหรับในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.) โดยมีพาร์ทเนอร์คนขับไปรับสินค้าหรือพัสดุจากผู้ส่งถึงมือ ไม่ต้องเสียเวลาไปจัดส่งด้วยตัวเอง
และประการสุดท้ายความปลอดภัยในการใช้บริการ (Service Guarantee): สามารถตรวจสอบและติดตามสถานะการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน Grab ทั้งยังการประกันสินค้า ครอบคลุมมูลค่าสูงสุดถึง 10,000 บาทต่อการจัดส่งในแต่ละครั้ง
“GrabExpress 4 Hours ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของบริการจัดส่งสินค้า-พัสดุแบบออนดีมานด์ ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์ให้กับกลุ่มร้านค้าออนไลน์เป็นหลัก โดยเราริเริ่มขึ้นเพื่อต่อยอดโครงการ ‘GrabExpress Sellers Club’ คู่คิดพิชิตธุรกิจออนไลน์ ที่แกร็บเพิ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าบริการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจและลดต้นทุนให้แก่ร้านค้าออนไลน์ได้ ซึ่งแกร็บเตรียมขยายบริการดังกล่าวไปในจังหวัดอื่นๆ ต่อไปในอนาคต” นางสาวจันต์สุดา กล่าวทิ้งท้าย