จากความเข้าใจผู้บริโภคในเชิงลึกถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เน้นความสะดวกสบาย มีความต้องการหลากหลาย และคาดหวังถึงการตอบสนองที่รวดเร็วจากผู้ประกอบการ นำมาซึ่ง การพัฒนากลยุทธ์การตลาด การสร้างแบรนด์ และ การพัฒนาสินค้าและบริการ (Service solution) ของกลุ่มสินค้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี และกลุ่มกระเบื้องมุงหลังคา เอสซีจี ที่ตอบโจทย์ในทุกปัญหาและความต้องการได้แบบครบวงจรอย่างแท้จริง
นางอัญชลี ชวนะลิขิกร Deputy Head of Housing Products Business บริษัท สยามไฟเบอร์ซีเมนต์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เอสซีจีรูฟฟิ่ง จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้พัฒนากลยุทธ์ และสร้างแบรนด์ สินค้าสมาร์ทบอร์ด และหลังคา เอสซีจี โดยใช้ 3 กลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่
ยึดลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric) หนึ่งในหัวใจของความสำเร็จในการทำตลาดและสร้างแบรนด์ มาจากความเข้าใจในผู้บริโภคถึงความต้องการ และปัญหาที่พบเจอ
“เราให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มหลัก ทั้งเจ้าของบ้าน ช่าง/ผู้รับเหมา โดยมีการศึกษาความต้องการในเชิงลึกของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะความต้องการที่เปลี่ยนไปในยุค New normal จากสถานการณ์โควิด 19 โดยให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงลูกค้าจากทุกช่องทางโดยเฉพาะ Social listening ในช่องทางโซเชียล โดยเราจะใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าและบริการ (Service solution) เพื่อแก้ Pain point ให้กับลูกค้า”เช่น
พัฒนาโซลูชัน
ฤดูร้อนของเมืองไทยร้อนมากขึ้นทุกปี ซึ่งส่วนหลังคาเป็นส่วนที่รับความร้อนโดยตรง ส่งผลต่อความร้อนภายในบ้าน เราจึงพัฒนา SCG Active AIRflow System ระบบถ่ายเทอากาศที่ระบายความร้อนภายใต้หลังคาเพื่อให้บ้านเย็นขึ้น
นอกจากนี้ยังต่อยอดเป็นเทคโนโลยีระบบหลังคาโซลาร์ที่ช่วยจัดการพลังงานภายในบ้าน ให้ประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 60% สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพ ปริมาณการใช้และผลิตพลังงานผ่านแอปพลิเคชันได้ และเทคโนโลยีใหม่ “โซลาร์ ระบบ Hybrid” ที่สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
จากสถานการณ์ Covid 19 และ PM2.5 เอสซีจีจึงพัฒนา SCG Active AIR Quality ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน กรองอากาศดีเข้าภายในบ้านและดันอากาศเสียออกนอกตัวบ้าน อากาศจึงสะอาดและปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 เชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ
นอกจากนั้นเรายังมีการพัฒนา ARI Clinic และตู้ปลอดเชื้อความดันบวกซึ่งผสานนวัตกรรมระบบผนัง ULTRA CLEAN WALL Solution ที่มีความปลอดภัยทำความสะอาดได้ง่าย สามารถเช็ดฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับโรงพยาบาลหรือ Segment ของลูกค้าที่ต้องการผนังแบบ Hygienic
พัฒนาสินค้านวัตกรรม หรือ HVA (High Value Added product and service)
เอสซีจี ให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่เหมาะกับประเทศไทยที่อากาศร้อนยิ่งขึ้นในทุกปี โดยพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อบ้านเย็นอยู่สบาย ช่วยระบายอากาศร้อน และกันแมลงด้วยการติดตาข่ายสำเร็จรูป ได้แก่ ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่นระบายอากาศ-โพรเทคชั่น
พัฒนาสินค้าในกลุ่มสมาร์ทบอร์ด แบบ High Density ที่มีความหนาแน่นของแผ่นสูง ตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงการขยายโอกาสไปยังสินค้ากลุ่มตกแต่งมากขึ้น ในกลุ่มวัสดุตกแต่งวัสดุทางเลือกใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกงานดีไซน์
ในส่วนของหลังคา เอสซีจี ได้พัฒนานวัตกรรมกระเบื้องหลังคา โดยเปิดตัวหลังคาคอนกรีตรุ่น CPAC Smooth Cool ผิวสัมผัสเรียบเนียน มาพร้อมลอนหลังคาแบบลอนเล็ก หรือ “ลอนเซ็นจูเรียน” ช่วยสร้างมิติให้ผืนหลังคาบ้านโดดเด่น ทันสมัย และเทคโนโลยี ที่ทำให้หลังคา Slim บางลงกว่าเดิม เพิ่มความเท่ แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน อย่างหลังคาคอนกรีตเอสซีจี รุ่น “Prestige X-Shield SLIM” พร้อมเคลือบสีสูตรพิเศษ X-Shield Technology ช่วยให้สีสวย ทนกว่าหลังคาคอนกรีตทั่วไป 3 เท่า
“ดังนั้นสินค้า HVA นับเป็นจุดแข็ง สร้างความแตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์เอสซีจี ได้อย่างต่อเนื่อง”
Personalize Marketing การค้นหาความต้องการ และพัฒนาโซลูชันที่ตอบสนองในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอย่างแท้จริง นำมาซึ่ง Brand Value ของเอสซีจี ในสายตาของลูกค้า
ในส่วนของบริการที่เข้าไปแก้ไขปัญหาของลูกค้า มีตั้งแต่การให้ข้อมูลสินค้า วิธีการติดตั้ง วิธีการใช้งาน ให้กับกลุ่มเจ้าของบ้าน และช่าง/ผู้รับเหมา เช่น
SCG Solar Roof Solutions เป็นบริการระบบหลังคาโซลาร์ที่ Personalize ให้เหมาะสมกับปริมาณและลักษณะการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าแต่ละบ้าน โดยจะมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ,ประเมินหลังคา พร้อมออกแบบการติดตั้งระบบโซลาร์โดยคำนึงถึงปริมาณและลักษณะการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรืออาคาร นั้นๆ เพื่อประสิทธิภาพของระบบและความคุ้มค่าในระยะยาว พร้อมรับประกัน 25 ปี
ในกลุ่มช่างผู้รับเหมาปัญหาที่พบ คือยิงขอบแผ่นฝ้าแล้วแตก เราจึงพัฒนาฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี โดยปรับสูตรใหม่ เป็นสูตรซูเปอร์โมเลกุล ที่ให้แผ่นมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ยิงขอบแผ่นไม่แตก แก้ปัญหาทำให้ช่างทำงานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว
รวมถึงการทำแคมเปญโปรโมชั่น ที่เข้าถึงกลุ่มช่างแต่ละคน ผ่าน การทำการตลาดและการสื่อสารแบบ Digital Marketing เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า บริการได้ตามพฤติกรรมการหาข้อมูลและการซื้อสินค้าบนเพลทฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งยังคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหลัก Circular Economy หรือ Green Choice เพื่อให้เป็นสินค้าที่รักโลกมากขึ้นด้วย โดยพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ ESG คือ Environment, Social และ Governance ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญในอนาคต สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้ SCG Green Choice ซึ่งสินค้าสมาร์ทบอร์ด และหลังคา เอสซีจี ที่ได้การรับรองสินค้าประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ สินค้าที่ยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ และ ส่งเสริมสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีของผู้บริโภค
จากกลยุทธ์ข้างต้นนำมาซึ่งความสำเร็จของ สมาร์ทบอร์ด และหลังคา เอสซีจี ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ จนได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2022 โดยก้าวต่อจากนี้ ยังคงมุ่งมั่นด้านการพัฒนานวัตกรรม การศึกษาและทำความเข้าใจ Insight และ Journey ของลูกค้า รวมถึงการนำเสนอบริการที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตดีขึ้น (Passion for Better)