“A5” โชว์ผลงานไตรมาส 1/2565 แข็งแกร่ง ทำรายได้นิวไฮที่ 322.04 ล้านบาท เติบโต 26.79% และมีกำไรสุทธิ 52.05 ล้านบาท ทำสถิติใหม่หากไม่นับรวมกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันของปีก่อน รับปัจจัยโครงการ “วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์” คึกคัก ทำยอดโอนดีกว่าคาด มองแนวโน้มอสังหาฯ ครึ่งปีหลังจะได้รับผลดีจากกำลังซื้อที่อั้นไว้ หลังราคาบ้านมีแนวโน้มปรับขึ้นตามต้นทุนค่าก่อสร้าง เตรียมทยอยเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,500 ล้านบาท ประเดิมเปิดพรีเซลโครงการใหม่ในจังหวัดอุดรธานี ช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมวางงบซื้อที่ดิน 700 ล้านบาท ด้านบอร์ดแต่งตั้ง “นายโชติกร ปัญจทรัพย์” เป็นกรรมการบริษัทฯ
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่าบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ไตรมาส 1/2565 เป็นสถิติสูงสุดใหม่ (New High) โดยมียอดรับรู้รายได้รวม 322.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรับรู้รายได้รวม 253.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 52.05 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 95.11 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากไม่นับรวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินจำนวน 105 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าบริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 เป็นสถิติสูงสุดใหม่เช่นเดียวกัน
ผลการดำเนินงานที่เติบโตดีกว่าที่คาดอย่างมีนัยสำคัญ มาจากโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ สามารถทำยอดโอนกรรมสิทธิ์เป็นมูลค่ารวมมากกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้าเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่องและตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้ หลังจากราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนค่าก่อสร้าง รวมถึงได้พัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนและพร้อมอยู่ ซึ่งสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 34.01% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 22.51%
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโชติกร ปัญจทรัพย์ เข้าเป็นกรรมการบริษัทฯ เพื่อร่วมกำหนดนโยบายและทิศทางองค์กรที่จะนำ A5 เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว และมุ่งมั่นที่จะนำบริษัทฯ เป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์นิชมาร์เก็ตอย่างแท้จริงตามที่เคยประกาศไว้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร A5 กล่าวว่า ภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะผู้บริโภคที่มองหาบ้านระดับบนพบว่ามีความสนใจเข้ามาเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้น ส่วนผู้บริโภคที่มองหาบ้านระดับกลางคาดว่ากำลังซื้อจะทยอยฟื้นตัว โดยจะได้รับผลดีจากผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจเพื่อรอราคาที่เหมาะสม (Pending Demand) กลับมาซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้อีกครั้ง เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้รับรู้แล้วว่าราคาบ้านมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนค่าก่อสร้าง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังอยู่ในระดับต่ำและยังได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนรวมถึงค่าจดจำนองจากภาครัฐ
บริษัทฯ จึงเตรียมทยอยเปิดโครงการใหม่ในปีนี้รวม 3 โครงการ โดยปรับเพิ่มมูลค่าโครงการรวมเป็น 4,570 ล้านบาท จากเดิมประมาณ 3,200 ล้านบาท เนื่องจากพัฒนาโครงการบนที่ดินขนาดใหญ่ขึ้น ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการ “บ้านรชยา ประชาสันติ” ในจังหวัดอุดรธานี เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคายูนิตละ 2 – 4 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดพรีเซลในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2565 เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในพื้นที่ ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้ายเตรียมเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรร ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรรในจังหวัดอุดรธานีอีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท