บมจ.สีเดลต้า หรือ DPAINT เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2565 รายได้รวม 218 ล้านบาท เติบโตถึง 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขึ้นราคาสินค้า 6-12% ในไตรมาส 2 หลังต้นทุนเพิ่ม พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง เพิ่มศักยภาพการเป็นผู้นำในตลาดสีระดับพรีเมียม
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ “DPAINT” เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีความยินดี ที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 218 ล้านบาท เติบโต 28 ล้านบาท หรือ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จาก กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2564 ที่ 10.5 ล้านบาท แต่ลดลงจากกำไรสุทธิ 21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจาก ราคาน้ำมันและราคาปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสีทั่วโลกในไตรมาสนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ดี โดยบริษัทฯ ได้ปรับราคาสินค้าขึ้น 6-12% ซึ่งมีผลในไตรมาส 2 เพื่อรักษาอัตรากำไรและสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงลดต้นทุนวัตถุดิบ และลดค่าใช้จ่ายในการขายอีกด้วย คาดว่าบริษัทฯ จะลดต้นทุนการผลิตลงได้ประมาณ 3% -5% ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จึงมั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นสู่สภาวะปกติ
“ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตในอัตราที่น่าพอใจ และคาดว่าในปีนี้ เราสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตประมาณ 20% – 30% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสีระดับ Premium/High Quality ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตรากำไรที่ดีไว้ได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางแผนจะขยายส่วนแบ่งการตลาด ในตลาดสีระดับกลางซึ่งเป็น เซกเมนต์ขนาดใหญ่ โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้สูง นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าส่งออกสีทาอาคารใน CLMV ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นนวัตกรรม “VAKUUM Technology” จากประเทศเยอรมนี และรุกตลาด Blue Ocean มากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมเพิ่มเติม ขยายกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียม เพื่อสนับสนุนอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของ DPAINT มีสัดส่วนสีคุณภาพพิเศษ 40.0% สีคุณภาพสูง 28.6% และสีคุณภาพคุ้มค่า 31.4% ของรายได้รวมจากการขายและบริการ โดยจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1,500 สาขา เกือบทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) 192 สาขา ร้านค้าปลีก (Retail) 1,527 สาขา เพิ่มขึ้นถึง 35% จากปีก่อน และงานโครงการ (Project) รวมทั้ง การบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งาน ปัจจุบันมีจำนวน 491 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 49 เครื่อง ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายรณฤทธิ์กล่าวเสริม
DPAINT เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร ประกอบด้วยสีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่า โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 20,000 ล้านบาท
