บมจ. วิลล่า คุณาลัย “KUN” ชี้ นนทบุรีเป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดีของคนกรุงเทพฯ โอกาสต่อยอดการลงทุนที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว โครงการ “คุณาลัย พาร์โก้” มูลค่า 500 ล้านบาท ชูความเป็นบ้านสไตล์ โมเดิร์น อิตาเลียน แห่งแรกในโซนบางบัวทอง ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น ในราคาเริ่มต้นที่ 4.79 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดที่อยู่อาศัยคนนนทบุรี พร้อมลุยขยายโครงการโซนอื่นต่อเนื่อง หวังสร้างการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า จังหวัดนนทบุรี มีวิสัยทัศน์ในการเป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดีของคนกรุงเทพฯ โดยมุ่งพัฒนาเมืองเพื่อการเป็นที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ และตอบโจทย์บนทำเลที่ใกล้กรุงเทพฯ รวมถึงแหล่งการคมนาคมควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับการเดินทาง ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงสะท้อนถึงตัวเลขโครงการที่อยู่อาศัยที่ทยอยเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อัตราการแข่งขันที่ทวีความคึกคักมากยิ่งขึ้นดังนั้น
“ทำเลบางบัวทองเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีการแข่งขันที่หลากหลายมากขึ้นในทุกระดับสินค้า ผู้บริโภคจะมีโอกาสได้เลือกที่อยู่อาศัยตามสไตล์ชีวิตของตนเอง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากผลกระทบของทั้งโควิด-19 และฝุ่นมลภาวะในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามองหาบ้านแนวราบมากขึ้น ทำเลนี้จึงโดดเด่น ในแง่ของราคาที่ไม่แพงเกินไป ซึ่งพฤติกรมผู้บริโภคในปัจจุบันจะมุ่งเน้นที่อยู่อาศัยที่มีความคุ้มค่า สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบทุกมิติ และเป็นระดับราคาที่จับต้องได้ ซึ่งโครงการของ “KUN” ตอบทุกความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างลงตัว”
“KUN” ในฐานะผู้นำในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (เจ้าตลาด) ในทำเลบางบัวทอง จึงเห็นถึงโอกาสต่อยอดการลงทุนโซนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางในการครองแชมป์การเป็นเจ้าตลาดของโซนนี้ คือการชิงส่วนแบ่งตลาด (Market Penetration) ด้วยการพัฒนาสินค้าบ้านใหม่ๆ ให้ครบทุก Segment ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยม และอาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันก็พัฒนาสินค้าบ้านใหม่ ๆ เพื่อทดแทนสินค้าที่กำลังจะหมดลง สำหรับรองรับความต้องการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการ “คุณาลัย พาร์โก้” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านสไตล์โมเดิร์น อิตาเลียน แห่งแรกในโซนบางบัวทอง โดยชูคอนเซ็ปต์หลักของโครงการ คือครอบครัวที่อยู่ร่วมกันหลากหลายเจนเนอเรชั่น (Gen) ในบ้านหลังเดียว ในระดับราคาเริ่มต้นที่ 4.79 ล้านบาท ถือเป็นบ้านราคาสูงที่สุดของโครงการ“คุณาลัย” โดยจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการ คุณาลัย พาร์โก้ มาจากการพูดคุยกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ภายใต้โจทย์ “หากคุณาลัยจะทำบ้านที่มีสไตล์พิเศษคุณอย่างจะให้เป็นแบบใด” ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจกับแนวนี้อย่างมาก จึงร่วมกันแสดงความคิดเห็น จนมีการพัฒนาออกมาเป็นโครงการ “คุณาลัย พาร์โก้”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเรามีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในโซนนี้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ KUN สามารถครองใจผู้บริโภคในโซนนี้ได้ตลอดระยะเวลา15 ที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้ไปผู้บริโภคจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสไตล์บ้านของ KUN ที่เปลี่ยนไป เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของเราเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งความหลากหลายของอายุ ไลฟ์สไตล์ ทำเล และความชอบ โดยภายในปีนี้ “KUN” จะทำรีแบรนดิ้ง เพื่อสร้างแบรนด์คาแรคเตอร์ให้ชัดเจน เพื่อตอบทุกโจทย์ที่อยู่อาศัยในทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับโครงการ “คุณาลัย พาร์โก้” เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น อิตาเลียน รวมจำนวน 96 ยูนิต บนที่ดิน 21 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย 1. LUCCA มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 150 ตารางเมตร 2.COMO ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 170 ตารางเมตร และ 3. VERONA ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 200 ตารางเมตร
“กลยุทธ์หลักของ “KUN” คือการพัฒนาตัวสินค้าให้ขายตัวเองได้ด้วยความ “คุ้มค่า น่าซื้อ” ซึ่งเป็นจุดแข็งของสินค้าเรา และการตลาดที่มีความเฉพาะสำหรับกลุ่มฐานลูกค้าที่เก่า ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการแนะนำ บอกต่อ หรือชักชวนกันมาอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ หากนับรวมโครงการที่ผ่านฝีมือการบริหารของครอบครัวมามากกว่า 40 ปี เรามั่นใจว่าเป็น 1 ใน 5 ของปริมาณลูกค้า (มากกว่า 25,000 ครัวเรือน จากหลากหลายแบรนด์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน) ดังนั้นจากศักยภาพของทุกโครงการที่ “KUN” มุ่งพัฒนา ประกอบกับฐานชื่อเสียงด้านความรับผิดชอบ จึงเป็นข้อตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีให้กับ “KUN” อย่างต่อเนื่อง ” นางประวีรัตน์ กล่าว
ปัจจุบัน “KUN” มีโครงการอยู่ในระหว่างการขายและพัฒนาในโซนบางบัวทอง ทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,600 ล้านบาท ซึ่งมีโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วบางส่วน และยังคงมีสินค้าเหลือขายพร้อมรับรู้รายได้อีก จำนวน 615 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,220 ล้านบาท นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีที่ดินดิบในโซนดังกล่าวคงเหลืออีกประมาณ 60 ไร่ ซึ่งหากนำมาพัฒนาโครงการ คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1,800 ล้านบาท รองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกประมาณ 5 – 7 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะมองหาที่ดินในจังหวัดนนทบุรีโซนอื่นเพิ่ม เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้มุ่งหาที่ดินบริเวณอำเภอบางใหญ่ เนื่องมองว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยในโซนดังกล่าวยังมีแนวโน้มการเติบโตได้ต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกเหนือจากโซนบางบัวทองที่”KUN” เป็นเจ้าตลาดแล้ว บริษัทฯ ยังมีBusiness model และ vision ในการขยายธุรกิจ 2 ทิศหลักๆ ประกอบด้วย ทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ (ฉะเชิงเทรา) และทิศใต้ของกรุงเทพฯ (บางขุนเทียน) ซึ่งทั้ง 2 ทิศดังกล่าว มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งงานจากการพัฒนาของเมือง และการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ อีกทั้งยังมีการคมนาคมที่สะดวก ขณะเดียวกันในปีนี้ KUN ยังมองหาโอกาสในการขยายการพัฒนาโครงการเพื่อต่อยอดไปยังทิศที่ 4 คือทิศเหนือของกรุงเทพฯ อาทิ ปทุมธานี และรังสิต เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งหากแผนกลยุทธ์ดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้”KUN” มีโครงการบ้านภายใต้ “ วิลล่า คุณาลัย” ครบทั้ง 4 ทิศตามแผนที่วางไว้
โดยโครงการใหม่ ที่มีแผนเตรียมเปิดตัวในปีนี้ นอกเหนือจาก“คุณาลัย พาร์โก้” ประกอบด้วย 2 โครงการ คือ 1.โครงการ คุณาลัย เดซี่ (Kunalai Daisy) โซนบางบัวทอง มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท เป็นโครงการที่พัฒนาใหม่ เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่กำลังจะหมด เป็นสินค้าบ้านแฝดและบางเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุด โดยการพัฒนาจะเน้นเรื่อง “ตัดส่วนเกิน เพิ่มเติมส่วนขาด” ตามความถนัดที่ “KUN” มี ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในบ้านเพิ่มขึ้น และ 2.โครงการ คุณาลัย นาวาร่า (Kunalai Navara) มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจุดเด่นของโครงการ คือความพิเศษของทำเลที่อากาศดีที่สุดในกรุงเทพฯ และจะเป็นโครงการสุดท้ายในโซนดังกล่าว ในระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการจะเปิดขายเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ สำหรับปี 2565 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตัวเลข New High ต่อไป โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายรายได้อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20 % จากปี 2564 และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่1,800 ล้านบาท เติบโตจากปี2564 ที่ 1,510 ล้านบาท พร้อมทั้งยังตอกย้ำว่าในปีนี้จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลกำไรของ “คุณาลัย” อย่างชัดเจน หลังจากที่ได้ลงทุนมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มี Backlog มูลค่า 430.79 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มองแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ ปี2565 ว่า แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2564 โดยมองว่าสถานการณ์ในปัจจุบันพ้นจุดที่ต่ำสุดของดัชนีต่าง ๆ ที่สำคัญแล้ว ขณะที่ภาครัฐยังคงดำเนินนโยบาย “งบประมาณขาดดุล” การลงทุนที่สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น รถไฟฟ้า ถนน ทางด่วน ซึ่งส่งผลต่อการหมุนเวียนของกระแสเงินภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายกระตุ้นช่วยเหลือโครงการต่าง ๆ ทยอยออกมาต่อเนื่อง เช่นการใช้จ่าย โครงการคนละครึ่ง การท่องเที่ยวและอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ รวมถึงการเปิดรับชาวต่างชาติ ทำให้ภาพรวมของทุกอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นค่อนข้างชัดเจนในทุกด้าน