เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2564 โดยสามารถยื่นภาษีแบบเอกสารได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 และสามารถยื่นภาษีทางออนไลน์ได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2565 ซึ่งการยื่นภาษีนั้น สามารถทำที่สำนักงานสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรได้ สำหรับคนที่ทำงานมานาน มีประสบการณ์การยื่นภาษีคงรู้อยู่แล้วว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง แต่สำหรับ “มนุษย์เงินเดือน” ที่เป็นมือใหม่หัดยื่นภาษีอาจจะยังคงสับสน ว่าต้องยื่นภาษีในรูปแบบใดและต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
อย่างแรกที่ต้องทราบคือ การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี 2 แบบ ได้แก่
ภ.ง.ด.90 ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ เช่น ค้าขายแบบบุคคลธรรมดา หรือเงินปันผล
ภ.ง.ด.91 ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยไม่มีรายได้เสริม เช่น พนักงานบริษัทที่รับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว
เตรียมความพร้อมก่อนยื่นภาษี
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการยื่นภาษี คือการเตรียมเอกสารให้พร้อม เพราะเอกสารบางประเภทอาจต้องใช้เวลานานในการขอ และในการยื่นภาษีแต่ละครั้งต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ หากลืมรายการลดหย่อนภาษีไปแม้แต่รายการเดียว นั่นก็หมายถึงต้องจ่ายภาษีมากขึ้น ก่อนทำการยื่นภาษีจึงต้องเช็กรายการและเตรียมเอกสารลดหย่อนภาษีที่มีให้ครบ
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนยื่นภาษี
เอกสารหลักฐานแสดงรายได้ หนังสือรับรองเงินเดือน (50 ทวิ) จากนายจ้าง ซึ่งในเอกสาร 50 ทวิจะมีรายละเอียดสำคัญ เช่น รายได้รวมที่แสดงให้เห็นว่า ในปีนั้นเรามีรายได้รวมเท่าไหร่ หรือเงินสมทบประกันสังคมทั้งหมด เป็นต้น
เอกสารรายการลดหย่อนภาษีกลุ่มต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้ตลอดทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ หรือบุตร เบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เอกสารช้อปดีมีคืน เป็นต้น
ท้ายที่สุดเมื่อเตรียมเอกสารพร้อมหมดแล้ว อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การยื่นภาษี ซึ่งสามารถยื่นได้ง่าย มีหลายวิธีให้เลือกตามที่สะดวก ดังนี้
1.กรอกใบ ภ.ง.ด. แล้วเตรียมเอกสารยื่นภาษีที่เกี่ยวข้อง ไปยังสำนักงานสรรพากรทุกพื้นที่
2.กรอกใบ ภ.ง.ด. แล้วให้หน่วยงานบริษัทที่สังกัดยื่นให้
3.ยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ www.rd.go.th
วางแผนล่วงหน้า ประหยัดกว่า
สำหรับคนที่กำลังเตรียมจะยื่นภาษีหรือยื่นภาษีเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าปีนี้ต้องจ่ายภาษีจำนวนไม่น้อย อาจเพราะไม่ได้มีการวางแผนการลดหย่อนไว้ล่วงหน้า ปีนี้ต้องเริ่มต้นวางแผนทางการเงินสำหรับการยื่นภาษีล่วงหน้าบ้างแล้ว ตัวช่วยในการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี นอกเหนือจากค่าลดหย่อนส่วนตัวแล้ว “ประกันสุขภาพ” ที่ให้ความคุ้มครองต่อสุขภาพร่างกาย โดยบริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้เอาประกันภัย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในการปิดความเสี่ยงผ่านการให้ความคุ้มครองในรูปแบบต่าง ๆ แต่ก่อนการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ ต้องเลือกซื้อประกันสุขภาพที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการได้อย่าง “คุ้มค่า” และควรปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบประกันให้ตอบโจทย์ตามความต้องการ รวมทั้งศึกษาข้อมูลกรมธรรม์ และความเสี่ยงของตัวเราให้มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าจริง ๆ โดยสิ่งสำคัญก่อนทำประกันจะต้องไม่ลืมศึกษาเงื่อนไขข้อมูลกรมธรรม์อย่างละเอียด
และซมโปะ ประกันภัย ก็มีประกันสุขภาพเต็มเต็มและดีดี ที่ให้คุณสามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามใจ ซึ่งความคุ้มครอง ครอบคลุมทุกรายการ ทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่ารถพยาบาล คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและฉุกเฉินวงเงินค่ารักษาต่อครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี และยังให้คุณสามารถใช้เบี้ยประกันสำหรับลดหย่อนภาษีได้เต็ม 25,000 บาท พร้อมรับความคุ้มครองได้วันนี้ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ในปีหน้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3nLHOfB