นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้ส่งมอบ Living Solutions คุณภาพมาตรฐานสูง เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 เปิดเผยว่า ” ผลประกอบการปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัททำสถิติสูงสุดทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ โดยความสำเร็จมาจากปัจจัยสำคัญ คือ ความเชื่อมั่นในแบรนด์ SC ที่จะส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพมาตรฐานสูงเพื่อลูกค้าทุกคน และรวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างผลงานร่วมกันของทีมงาน ”
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมียอดขายรวมทำสถิติสูงสุด 21,804 ล้านบาท เติบโต 31% (YoY) โดยมาจากพอร์ตหลัก คือ ยอดขายนิวไฮของแนวราบ 17,385 ล้านบาท เติบโต 18% ซึ่ง SC ครองอันดับ 1 ผู้นำบ้านหรูราคามากกว่า 20 ล้านบาท มี market share 17% ส่วนยอดขายแนวสูง 4,419 ล้านบาท เติบโต 139% โดยคอนโดราคามากกว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม. มี market share 13% ครองอันดับ 1 เช่นกัน (ข้อมูล market share อ้างอิงจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA ) ส่งผลให้บริษัททำสถิติรายได้รวม 19,553 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 19,475 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,062 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.5%
ในส่วนรายได้จากการดำเนินงาน แบ่งสัดส่วนได้เป็นรายได้จากการขาย 96% และอีก 4% มาจากค่าเช่าและบริการ โดยรายได้หลักจากการขาย 18,612 ล้านบาท มาจากรายได้นิวไฮของแนวราบ 15,496 ล้านบาท และรายได้จากแนวสูง 3,116 ล้านบาท บริษัทมียอดขายรอโอน หรือ Backlog รวม 8,511 ล้านบาท เป็นแนวราบ 44% และแนวสูง 56% ซึ่งรวมถึงยอดขาย 3 โครงการคอนโดที่จะสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนประมาณไตรมาส 4 ของปีนี้ ได้แก่ The Crest Park Residences , SCOPE Langsuan และ SCOPE Promsri
ณ. วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 49,754 ล้านบาท และหนี้สินรวม 29,701 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน (D/E) เท่ากับ 1.48 เท่า และมูลค่าทางบัญชี เท่ากับ 4.79 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565
สำหรับปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และยอดขายที่ 22,000 ล้านบาท โดยมีแผนเปิด 27 โครงการใหม่ แบ่งเป็นแนวราบ 25 โครงการ มูลค่า 33,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกจะเปิด 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 11 โครงการ มูลค่า 13,500 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท ในทำเลสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่ ใกล้สาทร และ บนสุขุมวิทติดสถานีบีทีเอสทองหล่อ ซึ่งโครงการหลังดำเนินการโดยบริษัท สโคป จำกัด
นายอรรถพล กล่าวสรุปว่า “ จากทิศทาง SC Thriving for Good เติบโตบนวิถีโลกใหม่ และแผนธุรกิจของปีนี้ มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้และยอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยจะมีโครงการเพื่อขายรวมทั้งหมดในปีนี้ รวม 78 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 69,000 ล้านบาทในสัดส่วนแนวราบ 70% และแนวสูง 30% พร้อมกับเตรียมงบซื้อที่ดินใหม่และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา 11,500 ล้านบาทรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปถึงปี 2025 ”
