บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ผู้นำบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทย ประกาศผลการดำเนินงานปี 2564 (มกราคม – ธันวาคม 2564) รายได้รวม 15,613 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 1,869 ล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์โควิดจะยังคงยืดเยื้อและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายของปีจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ทั้งนี้ ในปี 2565 คาดว่าแนวโน้มสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทฯได้เตรียมแผนงานเชิงรุกเพื่อขับเคลื่อนองค์กรอย่างแข็งแกร่งตามกลยุทธ์ One Platform พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในธุรกิจอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชกรรม
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2564 บริษัทฯต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ แต่ FPT ก็สามารถเดินหน้าธุรกิจให้ก้าวผ่านสถานการณ์ต่างๆมาได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มอสังหาฯครบวงจร และกลยุทธ์การดำเนินงานเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพพร้อมกับการควบคุมค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย ท่ามกลางความไม่แน่นอนและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานทั้งด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตลอดจนมุ้งเน้นในการพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มศักยภาพและเตรียมความพร้อมให้แก่องค์กรในการรองรับโอกาสการฟื้นตัวของตลาด ซึ่งแสดงแนวโน้มดีขึ้นในปีใหม่นี้”
ในภาพรวมของปี 2564 FPT ยังคงความสามารถในการรับมือกับความไม่แน่นอน และความท้าทายด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยในไตรมาสล่าสุด (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 4,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 และมีกำไรสุทธิ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 396 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการรับรู้กำไรจากการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 381 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวม 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม 2564) คิดเป็น 15,613 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 1,869 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ประกอบกับความสามารถในการผสานความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ทั้ง 3 ธุรกิจของบริษัทฯ (Synergy) และการกระจายความเสี่ยง (Diversified) ผ่านแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Omicron ที่มีอัตราการแพร่เชื้อที่รวดเร็ว ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมการขายและการตลาดได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งหนี้สินครัวเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง ส่งผลต่อยอดปฏิเสธสินเชื่อและการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้าที่ลดลง ทั้งนี้ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-ธันวาคม 2564) กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” สามารถบันทึกรายได้รวมจำนวน 11,117 ล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ และพัฒนาสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงบนที่มีกำลังซื้อสูง
กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล” และ กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล” ที่สร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯ บันทึกรายได้ที่ 2,178 ล้านบาทในปี 2564 (มกราคม-ธันวาคม) โดยธุรกิจโรงงานและคลังสินค้ายังมีอัตราการเช่ารวมสูงถึงร้อยละ 86 โดยยังคงมีแนวโน้มความต้องการพื้นที่เช่าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของภาคธุรกิจในกลุ่มอีคอมเมิร์ซและอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจน ได้รับผลบวกจากการที่ผู้ประกอบให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงด้านโลจิสติกส์ และการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์ของสถานการณ์โควิด ทำให้มีความต้องการพื้นที่เช่าคลังสินค้าระยะสั้นที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่ายังคงรักษาอัตราการเช่าได้ในระดับสูงกว่าร้อยละ 90 โดยมุ่งให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การบริหารสัญญาเช่าอย่างยืดหยุ่น ร่วมกับการให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอคุณภาพสูงในย่านธุรกิจใจกลางเมือง
“สำหรับปี 2565 FPT จะเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์อสังหาฯครบวงจรชั้นนำของประเทศ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา โดยในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะสร้างการเติบโตด้วยการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ” นายธนพล กล่าวเสริม