ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการ “รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 65” ณ สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “สวัสดีปีใหม่ 2565 เริ่มต้นอย่างปลอดภัย หยุดภัยและการสูญเสีย” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้และกระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว รวมถึงรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์เชิงรุก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบ Hybrid เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยมี ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย นายกสมาคมการค้าผู้สำรวจภัยไทย ผู้บริหารสำนักงาน คปภ. และผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย ร่วมเปิดโครงการ ทั้งนี้ มีสำนักงาน คปภ. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงภาคธุรกิจประกันภัยและประชาชน เข้าร่วมการจัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนพร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ PR OIC
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวเปิดโครงการ ในตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย จัดโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งสำนักงาน คปภ. ในฐานะหนึ่ง ในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก และด้วยบทบาทภารกิจหลักของสำนักงาน คปภ. ในการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลอดจนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยให้ได้รับความเป็นธรรม จึงได้บูรณาการการทำงานในเชิงรุกร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในการรณรงค์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และรณรงค์ในเรื่องการนำประกันภัยมาใช้ในการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการเยียวยาหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยให้เข้าไปมีบทบาทในการบริหารความเสี่ยงให้แก่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ และไม่ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ส่งผลให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย โดยเฉพาะในช่วง 7 วันอันตราย ของเทศกาลปีใหม่ทุก ๆ ปี ดังนั้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 สำนักงาน คปภ. จึงได้ส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยพัฒนา “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2565” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ 10 บาท” เบี้ยประกันภัยเพียง 10 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ซึ่งจะครอบคลุม ความคุ้มครองหลัก ได้แก่ กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุทั่วไปสูงสุด 100,000 บาท หรืออุบัติเหตุสาธารณะสูงสุด 200,000 บาท หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ 50,000 บาท รวมทั้งค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 30 วัน โดยได้เริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20-70 ปี
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า การจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย โดยได้นำผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีราคาถูกมาพัฒนาต่อยอด เพื่อขยายฐานการประกันภัยให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามสิทธิที่ทุกสาขาของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งได้ส่งมอบความคุ้มครองดังกล่าวให้กับลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ โดยขณะนี้ มีผู้ประกอบการขนาดใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ของประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ 14 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน บจ. เคาน์เตอร์ เซอร์วิส บจ. แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AIS) บจ. แมกซ์ การ์ด บจ. ช้อปปี้ (ประเทศไทย) บจ. ไทยพาณิชย์ โพรเทค TQM broker บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น Rabbit Insurance broker Tesco Lotus บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก Café Amazon บมจ. เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส บจ. บริหารสินทรัพย์ เจ และ Black Canyon
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป เพื่อซื้อกรมธรรม์ได้โดยตรงกับทุกสาขาบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ 14 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทประกันวินาศภัย 8 บริษัท ได้แก่ บมจ. กรุงเทพประกันภัย บมจ. เจมาร์ท ประกันภัย บมจ. ทิพยประกันภัย บมจ. ธนชาตประกันภัย บมจ. นวกิจประกันภัย บมจ. มิตรแท้ประกันภัย บมจ. วิริยะประกันภัย และบมจ. แอกซ่าประกันภัย ส่วนบริษัทประกันชีวิต 6 บริษัท ได้แก่ บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต บมจ. ไทยสมุทรประกันชีวิต บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต บมจ. สหประกันชีวิต บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และบจ. เอไอเอ
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้จัดกิจกรรมพิเศษทั่วไทยผ่านสำนักงาน คปภ. ภาค ทั้ง 9 ภาคทั่วประเทศ มอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อใช้สวมใส่ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมทั้งการให้ความรู้ ด้านประกันภัยผ่านบูธนิทรรศการด้านความปลอดภัยทางถนนของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และการให้ความรู้ด้านประกันภัยผ่านสารคดีสั้นและคลิปวิดีโอสั้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ในส่วนของการเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำนักงาน คปภ. ได้เปิดศูนย์บริการสายด่วน คปภ. 1186 อย่างครบวงจร เพื่อให้บริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันอันตราย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งให้มีการรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ Platform ทั้งในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต และ สำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อให้เป็นไป ในแนวทางเดียวกัน
โดยขั้นตอนการรายงานข้อมูลกรณีเกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ บริษัทประกันภัย มีหน้าที่จะต้องรายงานข้อมูลผ่านระบบภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อเป็นข้อมูลให้สำนักงาน คปภ. ติดตามและประสานการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับการเตรียมความพร้อมในพื้นที่ภูมิภาค ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ. ภาค ทั้ง 9 ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมบูรณาการกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์ประจำจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยทางถนนในส่วนภูมิภาคทั่วไทย รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการด้านประกันภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม
“ผมขอส่งความห่วงใยและความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทาง เพื่อท่องเที่ยว ด้วยความปลอดภัยก่อนออกจากบ้านอย่าลืม 4 เช็คนะครับ ได้แก่ เช็คสภาพร่างกายการเช็คสภาพรถ เช็คประกันภัย พ.ร.บ. และเช็คอุปกรณ์ป้องกัน COVID-19 รวมถึงทำประกันภัยอุบัติเหตุ เพื่อความอุ่นใจและมั่นใจในการเดินทาง และเช็คการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้ง ขอฝากให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติ ตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดโดยขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท และคาดเข็มขัดนิรภัยหรือสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง หากเกิดเหตุฉุกเฉินในระหว่างการเดินทาง สามารถแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายหรือแจ้งอุบัติเหตุไปยังบริษัทประกันภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั่วประเทศผ่าน Me Claim โมบายแอปพลิเคชันได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ call center คอยให้ความช่วยเหลือ และประสานงานตำรวจในพื้นที่ พร้อมทั้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ของท่าน นอกจากนี้ในช่วง 7 วันอันตราย สำนักงาน คปภ. ยังได้เปิดให้บริการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางสายด่วน คปภ. 1186 ช่องทางไลน์ Official @oicconnect และช่องทางเว็บไซต์สำนักงาน คปภ. www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย