เมืองไทยประกันภัย หรือ MTI ผนึก KBTG ยกระดับวงการประกันภัยสร้าง InsurTech นำเทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการดำเนินงานตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย รายแรกในประเทศไทย อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าบนดิจิทัลแพลตฟอร์มได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า “การตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการที่บริษัทจะอนุมัติประกันภัย เดิมต้องนัดหมายกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ ซึ่งใช้เวลามากกว่า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เมืองไทยประกันภัย จึงได้นำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาประยุกต์ใช้กับวงการประกันภัยเพื่อประมวลผลข้อมูลตรวจสภาพรถยนต์เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือของ เมืองไทยประกันภัย กับ KBTG ซึ่งเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ถือเป็นการพัฒนาระบบการตรวจสภาพรถยนต์ให้เกิดความสะดวก รวดเร็วต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้นแน่นอน”
เมืองไทยประกันภัย มุ่งเน้นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดมาจนถึงการที่ได้ร่วมมือกันเป็นพาร์ทเนอร์กับ KBTG บนเส้นทางดิจิทัลครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการนำเอาเทคโนโลยี Image Processing และ AI เข้ามาผสมผสานกัน เพื่อต่อยอดนวัตกรรมการเรียนรู้และประมวลผลจากแหล่งข้อมูล จนเกิดความเชี่ยวชาญในการตรวจจับร่องรอยความเสียหายของรถยนต์ที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ผ่านรูปภาพหรือภาพถ่ายที่ลูกค้าส่งเข้ามาตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการทำประกันภัย โดยลูกค้าสามารถดำเนินการตรวจสภาพรถยนต์ได้ทุกที่ด้วยตนเอง เปรียบเสมือน Self-service ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีผ่านระบบออนไลน์ที่ใช้งานง่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า “สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ KBTG และ เมืองไทยประกันภัย ได้ร่วมมือกันพัฒนาสร้างแพลตฟอร์มโดยนำเอาความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาใช้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลโดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งได้ใช้ Deep Technology มาต่อยอดนวัตกรรมทาง InsurTech ในการตรวจสภาพรถยนต์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ให้มีประสิทธิภาพอย่างก้าวกระโดดให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ก้าวทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ธุรกิจประกันภัยมีศักยภาพและเติบโตก้าวหน้าต่อไปบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในอนาคตได้”
“การที่เรานำ AI เข้ามาช่วยพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลด้านการตรวจสภาพรถยนต์ครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เราสามารถเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายได้อย่างครอบคลุมแล้ว เทคโนโลยีเหล่านี้ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มช่องทางการนำเสนอแผนประกันภัยให้ตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันแบบเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการเลือกซื้อประกันภัยของลูกค้าได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมในยุคของข้อมูลที่ลูกค้าสามารถเป็นผู้เลือกและกำหนดได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ เมืองไทยประกันภัย ยังคงเดินหน้าพัฒนาการให้บริการด้านประกันภัยผ่านเทคโนโลยี AI อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งในอนาคตเราได้วางแผนนำ AI เข้ามาสนับสนุนงานภายในองค์กร และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลอย่างดีที่สุด” นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติม
โดยระยะแรกจะเริ่มให้บริการผ่าน บริษัท โพรเกรส มัลติ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (PMIB) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลการซื้อประกันภัยและใช้บริการได้ที่ https://pmib.kasikornleasing.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Call Center 1484 และเว็บไซต์ www.muangthaiinsurance.com ทั้งนี้ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยทุกครั้ง