Sunny Emergency Light ผู้นำนวัตกรรมโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกฉุกเฉินของไทย พร้อมประกาศจดสิทธิบัตรนวัตกรรมแห่งอนาคต “โคมไฟฉุกเฉินไม่ใช้แบตเตอรี่” ครั้งแรกในโลก เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและลดการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดตัว 3 ฟังก์ชันใหม่! โคมไฟฉุกเฉินภายในบ้านเรือน ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า”
หลังจากสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการโคมไฟฉุกเฉินและป้ายทางออกฉุกเฉินของเมืองไทยมากว่า 42 ปี ทั้งยังจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์เกี่ยวกับโคมไฟให้แสงสว่างฉุกเฉินมากมาย จนทุกวันนี้หลายฟังก์ชันการใช้งานที่คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนาของ Sunny Emergency Light ได้กลายเป็นมาตรฐานในการผลิตโคมไฟฉุกเฉินของเมืองไทยไปแล้ว ล่าสุดแบรนด์พร้อมประกาศเดินหน้าคว้าใจลูกค้ากลุ่ม Home Users ด้วยโคมไฟฉุกเฉินภายในบ้านเรือนและโฮมฮอฟฟิศ ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานสุดล้ำและมีดีไซน์ให้เลือกหลากสไตล์
คุณสุรพล กุมชพร ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท อีสออน อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด และวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมล้ำยุคของ Sunny Emergency Light ผู้คิดค้นระบบ Auto Test และ Remote Control for Emergency Light เมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไปทำงานต่อที่ประเทศอเมริกา และกลับมาร่วมพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัยให้กับแบรนด์อีกครั้ง ผู้คิดค้นและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต้นแบบ (Prototype) โคมไฟให้แสงสว่างฉุกเฉินไม่ใช้แบตเตอรี่เป็นครั้งแรกในโลก ภายใต้แนวคิดที่จะลดการสร้างมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในเวลาเดียวกัน
“เนื่องจากนโยบายของ Sunny Emergency Light จะเน้นความก้าวล้ำของนวัตกรรมควบคู่กับการส่งเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผมและทีมผู้เชี่ยวชาญจึงใช้เวลาในการค้นคว้าวิจัยและสร้างงานต้นแบบขึ้นมาประมาณ 2 ปี และได้ทำการจดสิทธิบัตรในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมโคมไฟฉุกเฉินไม่ใช้แบตเตอรี่ มาจากปัญหาที่พบมาตลอดหลายสิบปีคือ ‘แบตเตอรี่โคมไฟฉุกเฉิน’ ที่นอกจากจะใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ทั้งยังมีราคาสูงเพราะเราเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ”
“ถึงอย่างนั้น กระบวนการขจัดแบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งาน ก็ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก หากเราสามารถยกเลิกการใช้แบตเตอรี่น่าจะดีกว่าในระยะยาว ผมจึงวิเคราะห์การใช้พลังงานรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทดแทนสารเคมี เน้นอายุการใช้งานไม่จำกัด และหลังจากเลิกใช้งานแล้วสามารถนำไปใช้งานอย่างอื่นได้โดยไม่เกิดมลภาวะ ทำให้เราพัฒนางานต้นแบบของโคมไฟฉุกเฉินไม่ใช้แบตเตอรีได้สำเร็จ แต่เรายังมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปเพื่อเจเนอเรชั่นใหม่ที่ดีขึ้น และนำแนวคิดนี้ต่อยอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Sunny Emergency Light ในอนาคต”
นอกจากนี้ คุณสุรพลยังพูดถึง 3 ฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีใหม่ที่คิดค้นพัฒนาขึ้นและยังคำนึงถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยลดอันตรายและการสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นขณะไฟดับหรือไฟไหม้บ้านเรือน เพื่อสร้างมิติใหม่ให้โคมไฟฉุกเฉินภายในบ้านเป็นมากกว่าอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย หากแต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
“ปัจจุบันเรายื่นจดอนุสิทธิบัตรไปแล้ว 3 รุ่นคือ Gas and Smoke, Motion Sensor และ Light Detector ฟังก์ชัน ‘Gas and Smoke’ เป็นตัวจับไฮโดรคาร์บอนที่เป็นองค์ประกอบของสารไวไฟ ฟังก์ชันนี้จะทำงานเมื่อได้รับกลิ่นแก๊สรั่วหรือหมอกควัน จากนั้นไฟจะส่องสว่างอัตโนมัติโดยไม่ทำให้เกิดประกายไฟที่อาจทำให้แก๊สระเบิดได้ ตัวเครื่องจะส่งเสียงดังประมาณ 80 เดซิเบล เพื่อแจ้งเตือนให้คนในบ้านได้ตื่นตัวและป้องกันเหตุร้ายได้ทันการณ์”
“ฟังก์ชัน ‘Motion Sensor’ โดยจุดเด่นของตัวจับการเคลื่อนไหว จะอยู่ที่การใช้คลื่นไมโครเวฟแทนแสงอินฟราเรดเหมือนโคมไฟทั่วไป โดยคลื่นไมโครเวฟจะส่งสัญญาณทะลุตัวเครื่องออกมาได้ดี แตกต่างจากอินฟราเรดที่ต้องยื่นส่วนหัวของเซ็นเซอร์ออกมานอกตัวเครื่อง อีกทั้งคลื่นไมโครเวฟยังตรวจจับความเคลื่อนไหวระยะไกล ด้วยองศาที่กว้างกว่า และจับความเคลื่อนไหวได้ไวกว่าแสงอินฟราเรด เรายังพัฒนาให้สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่องได้ตามต้องการ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานมากขึ้น”
“ส่วนฟังก์ชัน ‘Light detector’ เมื่อไฟฟ้าดับในกรณีฉุกเฉิน ถ้าพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีค่าแสงสว่างมากกว่า 5 Lux โคมไฟฉุกเฉินจะไม่สํารองไฟฟ้าออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อให้แบตเตอรี่ได้มีการเก็บประจุไฟฟ้าไว้ใช้เมื่อยามจําเป็นเท่านั้น สามารถยกเลิกฟังก์ชันนี้ได้หากไม่ต้องการใช้งาน”
นอกจากนี้ เรายังพัฒนาการออกแบบวงจรชาร์จโคมไฟฉุกเฉินใหม่ที่เรียกว่า ‘3 Step Charger’ โดยหลักการทำงานคล้ายกับการชาร์จแบตฯ มือถือ คือเมื่อชาร์จไฟเต็มแล้วระบบจะตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อถึงจุดหนึ่งระบบจะต่อชาร์จไฟเข้าไปอีกครั้งทำให้เราสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่เกิดการ Over Charge