WSOL จัดประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ถือหุ้นอนุมัติรีแบรนด์อย่างเป็นทางการ เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท ตราสำคัญของบริษัท และชื่อย่อหลักทรัพย์ รวมถึงอนุมัติปรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนและการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เร่งดำเนินงานตามแผน สร้างรายได้เติบโตจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก เตรียมเปิดตัว New S-Curve แพลตฟอร์ม “WeiD” ศูนย์กลางบริการของ WSOL เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มลูกค้า ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL เปิดเผยมติอนุมัติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) โดยมีวาระสำคัญเรื่อง 1.การเปลี่ยนชื่อบริษัท และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 1.เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อ
2.การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับบริษัทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชื่อของบริษัท และเปลี่ยนตราสำคัญของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท
3.การเปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์ของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไข เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อบริษัท ตราสำคัญของบริษัท และชื่อย่อหลักทรัพย์ จากเดิมบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เป็น บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จํากัด (มหาชน) หรือ WSOL โดยมีความหมายมาจาก Winning Solution ภายใต้แนวคิด Win-Win คือ การดำเนินงานเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ พร้อมมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะมาช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจ และสร้างความสำเร็จร่วมกัน ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าผ่านข้อมูลเชิงลึก เพื่อพัฒนาการบริการในทุกกลุ่มธุรกิจให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังได้มีการรีแบรนด์บริษัทใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1. Financial & Payment Solutions โดยรีแบรนด์จากเติมสบายพลัส สู่ พร้อมเติม, เลิฟ ลีสซิ่ง สู่ เลิฟพร้อม และ สบายแคปปิตอล สู่ พร้อมแคปปิตอล 2. B2C Solutions ได้มีการรีแบรนด์สบาย สปีด สู่ พร้อมสปีด คอมเมิร์ช, สบาย เวนดิ้งพลัส สู่ พร้อมเวนดิ้ง และสบายวอช สู่ พร้อมวอช และ 3. B2B Solutions ได้มีการรีแบรนด์ Plus Tech สู่ TBS และ SABUY Solutions สู่ WSOL Solution
“การรีแบรนด์ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อบริษัทหรือโลโก้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่ลึกซึ้ง เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า ทั้งในแง่การสื่อสารกับผู้บริโภค แง่การดำเนินงาน การบริการที่สมบูรณ์และครบวงจร ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเร่งดำเนินงานตามแผน สร้างรายได้เติบโตจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก และตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา” นายอิทธิชัย กล่าว
ขณะที่การประชุมดังกล่าว ยังมีวาระสำคัญการปรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนและการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม และให้สัตยาบัน การใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เป็นเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 760 ล้านบาท ตามรายการ PP โดยมีวัตถุประสงค์ใหม่ประกอบด้วย 1.ชำระคืนหนี้และ/หรือ ดอกเบี้ยหุ้นกู้ รวมทุกชุด ภายในปี 2567-2568 ตาม เงื่อนไขที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้อนุมัติ เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท 2.ชำระคืนหนี้และ/หรือ ดอกเบี้ยสถาบันทางการเงินและเจ้าหนี้เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท 3.เป็นค่าตอบแทนในการเข้าทำรายการ EBT 360 ล้านบาท และ 4. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระ เจ้าหนี้การค้าเป็นจำนวนไม่เกิน 280 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม WeiD ซึ่งเป็น Super App ศูนย์กลางบริการที่จะเชื่อมโยงทุกบริการของ 3 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทให้เข้ากับผู้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้บริการที่ตรงใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างแท้จริง โดยออกแบบแพลตฟอร์มให้มีจุดแข็งด้านบริการตัวแทนรับชำระเงินที่เชื่อมต่อกับร้านค้าหลายแห่ง การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านการบูรณาการระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ (System Integration) และการบริการด้านบริหารจัดการงานปฏิบัติการแบบเอาท์ซอร์ส ซึ่งคาดว่าแพลตฟอร์มดังกล่าว จะเป็น New S-Curve ที่สามารถเข้ามาเสริมศักยภาพในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยจะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้