LPP ประกาศเดินหน้าคืนความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการที่บริหารจัดการกว่า 250 โครงการ หรือเป็นจำนวนกว่า 200,000 ยูนิต หลังยืนยันการตรวจสอบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และผู้ตรวจอาคารขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดยเร่งเคลมประกันความเสียหายในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการพร้อมเร่งซ่อมแซมความเสียหายให้โครงการกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปลอดภัยและสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยดังเดิม ควบคู่การประสานเรื่องเคลมประกันของเจ้าของร่วมทุกโครงการเพื่อดูแลสิทธิประโยชน์สูงสุด
คุณสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP กล่าวว่า ปัจจุบัน LPP ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจเช็กความปลอดภัยของ 250 อาคารที่บริหารจัดการและประสานผู้ตรวจอาคารขึ้นทะเบียนกับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจและรับรองเพื่อรายงานอาคารปลอดภัยแก่กรุงเทพมหานครแล้ว โดยเร่งเดินหน้างานประสานการเคลมประกันให้กับแต่ละโครงการเพื่อเร่งซ่อมแซมพื้นที่ส่วนกลางให้โครงการกลับมาสมบูรณ์ ปลอดภัย สะดวกสบายและน่าอยู่อาศัยเช่นเคย โดยระหว่างของการซ่อมแซมจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเจ้าของร่วม ด้วยการบริหารจัดการทั้งด้านเวลา วิธีการ และการเลือกใช้วัสดุ ที่จะไม่ให้มีงานเปียกหรือเลอะเทอะ เกะกะความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยเด่นประการหนึ่งในการบริหารจัดการของ LPP
ในการดูแลเจ้าของร่วมให้ได้รับความสะดวกที่สุดนั้น ที่ผ่านมา LPP ได้หารือร่วมกับบริษัทประกันภัยและ Broker เพื่อหาแนวทางให้ขั้นตอนการเคลมประกันสะดวกและรวดเร็วต่อเจ้าของร่วมมากที่สุด โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
-Surveyor ของบริษัทประกันภัยตามคู่สัญญาแต่ละนิติบุคคลจะเข้าสำรวจห้องชุดจำนวนหนึ่งในแต่ละโครงการ เพื่อประเมินความเสียหายและเทียบกับราคากลางที่กำหนด โดยที่จะไม่ต้องสำรวจทุกห้องชุดในแต่ละโครงการและกำหนดใช้ราคากลางในการเคลม ทั้งนี้เพื่อลดระยะเวลาและขั้นตอนในการเข้าประเมิน
-LPN ร่วมกับ LPP จัดทำระบบเคลมประกันในช่องทาง Line : @LPNConnect เพื่อให้ข้อมูลการยื่นเคลมประกันของแต่ละห้องชุดส่งผ่านไปยังบริษัทประกันภัยโดยตรง เป็นการร่นระยะเวลาและสามารถติดตามทุกขั้นตอนผ่านระบบได้ด้วยตัวเอง จนถึงการจ่ายเงินเคลมประกัน
-LPP อำนวยความสะดวกเจ้าของร่วมในเรื่องข้อมูลและขั้นตอนการขอความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การสงเคราะห์ผู้ประสบภัยกับสำนักงานเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ทันกำหนดเวลา 30 วันนับแต่วันเกิดเหตุ รวมถึงการประสานกับสำนักงานเขตต่างๆ ที่สะดวกมารับคำร้องในโครงการ
สำหรับ 250 โครงการที่ LPP บริหารจัดการ ทั้งในส่วนที่เป็นโครงการของ LPN 150 โครงการ และโครงการของดีเวลลอปเปอร์อื่นๆ อีก 100 โครงการ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว LPP ได้มีมาตรการจัดการและบริหารด้านความปลอดภัยทันที แบ่งเป็น 3 ช่วงคือ
1.การตรวจสอบเบื้องต้นทันที ที่ตรวจความปลอดภัยของอาคาร พื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภค เพื่อพิจารณาให้ผู้อยู่อาศัยสามารถกลับเข้าห้องชุดได้ภายใน 6 ชั่วโมง
2.เดินหน้าตรวจสอบต่อเนื่องเพื่อความมั่นใจ โดยทีมวิศวกรของ LPP และทีมพันธมิตร แบบ Visual Inspection ที่พบว่าอาคารส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบต่อโครงสร้าง แต่หากโครงการใดมีข้อสงสัย LPP ได้เชิญทีมเสริมกำลังโครงสร้างเข้าตรวจสอบอีกครั้งพร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขทันที ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่เจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัย โดยตรวจสอบได้ครบภายใน 1 สัปดาห์นับจากเกิดเหตุ หรือภายใน 4 เมษายน 2568
3.การตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอาคารที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อสรุปรายงานอาคารปลอดภัยให้แก่กรุงเทพมหานคร ซึ่งรายชื่ออาคารปลอดภัยที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจะขึ้นแสดงใน Building Inspection Dashboard ของกรุงเทพมหาครที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
“ในส่วนขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย และความเสียหายของอาคารอย่างละเอียดนั้น ทีมผู้บริหาร LPP และทีมวิศวกรได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับทีมเสริมกำลังโครงสร้าง นำโดย รศ.ดร.ธรรมศักดิ์ รุจิระยรรยง วุฒิวิศวกรโยธา ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยรังสิต คุณพิชญ์ รุ่งสัทธรรม ทีมวิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง และทีมวิศวกร คุณสมหมาย คำมีวงษ์ และ คุณสญภู อุเทนพันธ์ เพื่อตรวจสอบประเมินสภาพอาคารหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเมื่อพบความเสียหายได้กำหนดแนวทางแก้ไขทันทีโดยไม่ต้องรอการเคลมประกัน” นายสุรวุฒิกล่าว
แม้ว่าทุกโครงการที่ LPP บริหารจัดการจะได้การรับรองความปลอดภัยและซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายแล้วก็ตาม LPP ก็จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินตามนโยบายด้านความปลอดภัยต่อไปตามมาตรฐานของหลักวิศวกรรม เพื่อส่งมอบความปลอดภัยในการอยู่อาศัยและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ควบคู่กับการบริหารจัดการที่จะดูแลเจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในทุกวัน “Smooth Your Living” ตามปณิธานของเรา