บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 69/247-1) ของบริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“Tidlor Holdings” หรือ “ติดล้อ โฮลดิ้งส์”) ได้มีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่6 มีนาคม 2568 โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้ง Tidlor Holdings ซึ่งเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) และจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ TIDLOR จากผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญของบริษัทฯ (Tender Offer) ในอัตราแลกเปลี่ยน 1 หุ้นสามัญของ TIDLOR ต่อ 1 หุ้นสามัญของ Tidlor Holdings และเปิดให้ผู้ถือหุ้น TIDLOR ทำการแลกหุ้นในช่วงระหว่าง วันที่ 10 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 16 เมษายน 2568 เวลา 9.00 น. – 16.00 น. (เฉพาะวันทำการ) ซึ่งผู้ถือหุ้นจำเป็นต้องดำเนินการ “ตอบรับ” คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ด้วยตนเอง (กระบวนการแลกหุ้นจะไม่เป็นไปโดยอัตโนมัติ)
ภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้น และมีผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตอบรับคำเสนอซื้อในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ “Tidlor Holdings” จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “TIDLOR” เช่นเดิม แทนหลักทรัพย์ของ บมจ.เงินติดล้อ ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกัน สำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการแลกหุ้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนดจะเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้น Tidlor Holdings แทน ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของ บมจ. เงินติดล้อ แต่จะไม่สามารถทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างดำเนินการเสร็จสิ้น บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ Tidlor Holdings โดยยังคงมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ภายใต้แบรนด์ เงินติดล้อ และธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ Face to Face ผ่านช่องทางสาขา ภายใต้แบรนด์ ประกันติดโล่ ควบคู่ไปกับการใช้และพัฒนา InsurTech Platform ภายใต้แบรนด์ อารีเกเตอร์ (Areegator) และ เฮ้ กู๊ดดี้ (heygoody.com)
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของ Tidlor Holdings จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้การปรับโครงสร้างดังกล่าวยังช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบในเรื่อง Dilution ของราคาหุ้นและกำไรต่อหุ้น (EPS Dilution) ได้อีกด้วย