นายภูภัคกุน อัศวโสภณ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Refyll ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม เช่น Refyll LyteByte และ Refyll Grape Juice, Mineral Water, Organic Mulberry Tea with Roasted Jasmine Rice ได้แบ่งรายได้จากการขายมาทำกิจกรรมเพื่อชุมชน ผ่านโครงการ Bio Green Project ที่ได้ศึกษาวิธีการเกษตรกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ จึงได้พัฒนานวัตกรรมเครื่องเผาถ่านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดมลพิษ PM2.5 โครงการนี้ยังมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรด้วยการผลิต “Bio Char” (ถ่านไร้ควัน) น้ำส้มควันไม้ และยังได้ต่อยอดการทำ Bio Solar Oven เพื่อลดเวลาอบแห้ง จนได้ผลิตภัณฑ์ชาออร์แกนิกผสมข้าวหอมมะลิคั่ว ในการต่อยอดสนับสนุนชุมชน นายภูภัคกุนได้มอบเครื่องอบ “Bio Green Oven” และให้การอบรมแก่ชุมชนเกษตรกรในอำเภอวังม่วง นอกจากนี้ผลงานของเขายังได้รับเกียรติบัตรชื่นชมจากท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกด้วย
นอกจากความพยายามในการพัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว นายภูภัคกุนยังได้ชักชวนกลุ่มเพื่อน ร่วมทำกิจกรรมอาสาสมัคร โดยได้ร่วมมือกับนักศึกษาระดับมหาบัณฑิต สาขาดนตรีบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ไปแสดงดนตรีที่โรงพยาบาลศิริราช และสถานพักฟื้นคนชราบางแค มูลนิธิเด็ก และศูนย์รับบริจาคโลหิต จากประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าการแบ่งปันความสุขนั้นไม่ต้องใช้เงินมากมายแต่มาจากใจและการลงมือทำ การอุทิศตนเพื่อบริการชุมชนในครั้งนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจมากมายกับคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ นายภูภัคกุนยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ Refyll LyteByte ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่แพ้นมวัวและถั่ว ปราศจากน้ำตาล และโซเดียมต่ำ สามารถบริโภคได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ซุปเยลลี่และซอสดิป อีกทั้งยังมีโปรตีนจากอกไก่และวิตามินต่าง ๆ เพื่อเสริมประโยชน์ทางสุขภาพ นอกจากนี้ Refyll ยังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งทางออนไลน์และการเข้าร่วมงานนิทรรศการเพื่อสร้างสรรค์ชุมชนที่มีสุขภาพดี
ในปี 2024 ผลิตภัณฑ์ของ Refyll ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ เช่น รางวัลสมุนไพรแห่งชาติ รางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน และรางวัลคุณภาพ SQC ซึ่งยืนยันถึงคุณภาพและนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับความสำเร็จเหล่านี้แสดงถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทของนายภูภัคกุนและทีมงานในการสร้างสรรค์สังคม การพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และนวัตกรรมด้านสุขภาพ ถือเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ สะท้อนให้เห็นว่าภาวะผู้นำและจิตวิญญาณแห่งการบริการสาธารณะสามารถเดินไปด้วยกันได้เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นายภูภัคกุนยังได้เข้ารับเหรียญกาชาดสมนาคุณในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสภากาชาดไทยอีกด้วย
