นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม กล่าวว่า แสนสิริมีความภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับชาวภูเก็ต และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องมากว่า 13 ปี ปัจจุบันเราพบทำเลใหม่ที่มาแรง โดยเฉพาะโซนเชิงทะเลที่เปรียบเสมือนย่านพร้อมพงษ์-ทองหล่อ มีดีมานด์สูงจากนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ รัสเซีย ยุโรป อเมริกัน ล่าสุด พร้อมเปิดตัวโครงการ “CANVAS Cherngtalay” (แคนวาส เชิงทะเล) คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่แบบ Low-Rise จากแสนสิริแห่งแรกใจกลาง
โซนเชิงทะเล ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท จำนวน 175 ยูนิต มาพร้อมเลย์เอาท์ที่หลากหลายแบบ Fully Furnished รองรับทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ราคาเริ่มต้น 8.9–20.5 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 39.25–49.75 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 58.50–82.75 ตารางเมตร ไปจนถึงห้อง Penthouse พื้นที่ใช้สอย 83.00–105 ตารางเมตร สำหรับ 2 ห้องไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือห้อง Pool access และห้อง Penthouse พร้อม Rooftop ส่วนตัวที่มีจำนวนจำกัด สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นคนไทยที่ต้องการซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 หรือบ้านพักตากอากาศ รวมถึงซื้อเพื่อการลงทุน และ ชาวต่างชาติ
“เป็นครั้งแรกของการบุกทำเลที่สมบูรณ์แบบในโซนเชิงทะเล–บางเทา (Laguna zone) ซึ่งเป็นทำเลยอดนิยม และเป็นทำเลที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ด้วยปัจจัยหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ใกล้ชายหาดทะเลบางเทา รายล้อยด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม ถือเป็นไพร์มโลเคชั่นที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เองหรือมองหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าได้ดีที่สุดในตอนนี้ โดยมีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงถึง 8-12% ต่อปี
CANVAS Cherngtalay โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ OASIS ภายใต้แนวคิด “UNREVEALED BEAUTY หรือความงดงามที่ถูกเปิดเผย” ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร มาพร้อม FACILITIES ครบครัน อาทิ 2 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่สวนสีเขียวสไตล์ Luxury Tropical, Glamorous Co-working lounge และคลับเฮาส์แบบครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย อาทิ Golf Simulator Suite, Fitness Centre และ Sunset BBQ Terrace มาพร้อมกับการดูแลลูกบ้านและการอยู่อาศัยแบบเหนือชั้นจาก PLUS PROPERTY ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขาย ดูแลความสวยงามของโครงการ ดูแลเรื่องการปล่อยเช่า รวมถึง LIV-24 ศูนย์ควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์มาตรฐานระดับสากล
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์คือการเดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับทำเลต่างๆ ของภูเก็ตได้อย่างง่ายดาย เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง Boat Avenue Park & Playground ที่อยู่ห่างแค่ถนนกั้น รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Boat galleria แหล่งไลฟ์สไตล์อย่างสนามกอล์ฟ Laguna Phuket Golf Club, Laguna Holiday Club, ร้านอาหาร Bartels, Daily Dose, คาเฟ่ Bake, Porto de Phuket, Boat Avenue, Catch Beach Club รวมถึงยังใกล้โรงเรียนนานาชาติอย่าง HeadStart International School Phuket และ Health Club ชั้นนำ
“โครงการผ่านการอนุมัติจาก EIA และดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ และส่งมอบห้องชุดให้กับลูกค้าได้ช่วงต้นปี 2569 ซึ่งมั่นใจว่าโครงการนี้จะตอบโจทย์การเป็นที่อยู่อาศัยหรือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้อย่างคุ้มค่า ตอกย้ำการเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยและสานต่อจุดแข็งของการเป็นผู้นำแบรนด์อสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ต่อไป” นายองอาจ กล่าวสรุป
