วันศุกร์ ที่ 20 กันยายน 2567 11:18น.

ก้าวแห่งความยั่งยืนของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ในโครงการ RECO Collective

13 สิงหาคม 2024

          “เราไม่ได้เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มาก่อน ไม่ได้มีแบรนด์ แต่เรามี passion” เปรม บัวชุม หรือ โอเว่น ดีไซเนอร์จากแบรนด์ PREM เล่า “เมื่อก่อนเราไม่มีโอกาส ด้วยหน้าที่การงานประจำของเราบวกกับงบประมาณของเราไม่มีถึงขั้นที่จะเริ่มทำแบรนด์ตัวเอง พอพี่แม็ค ชนะจิตร ชวนมาเข้าร่วมประกวดในโครงการ RECO Young Designer ปีที่ 9 เมื่อปี 2565 เลยเข้าร่วมและชนะเลิศ จนได้มาร่วมฉลองปีที่ 10 ของ RECO Collective ซึ่งโครงการนี้ช่วย support เราในเรื่องของวัสดุ สื่อต่างๆ งบประมาณ พื้นที่จัดจำหน่าย และประทับใจตรงที่ทำให้เราได้ลอง ได้เริ่ม แล้วพอมี feedback กลับมาก็ทำให้เราได้รู้ว่า ลูกค้าของเราชอบแบบไหน แล้วไปต่อได้ โดยคอลเลคชั่นพิเศษนี้ ใช้ชื่อว่า “Love Blooms” ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นผสมผสานความเรียบง่ายและความเป็น ready-to-wear เข้ากับรายละเอียดอันพิถีพิถันจากผ้าที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลได้อย่างลงตัวทั้งสีสัน และความพลิ้วสวมใส่สบาย ซึ่งตอกย้ำว่า สินค้ารีไซเคิลอยู่กับเราได้ในทุกๆ วัน” โอเว่นเล่าถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมโครงการ RECO Collective ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเหล่าดีไซเนอร์ที่ผ่านการชนะเลิศมาจากโครงการ RECO Young Designer Competition ซึ่งจัดโดย อินโดรามา เวนเจอร์ส มาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี

          สำหรับ RECO Collective เป็นการ Collab กับแบรนด์น้องใหม่ที่รักษ์ในความยั่งยืนมาร่วมกันสร้างคอลเลคชั่นพิเศษ และสินค้า Ready-to-Wear ในแบรนด์ของตนเองที่ใช้วัสดุที่มาจากการรีไซเคิลมากขึ้น โดยไม่ทิ้งหัวใจสำคัญของ RECO ที่มุ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่ง RECO Collective จัดขึ้นโดย อินโดรามา เวนเจอร์ส ที่มีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักด้านการนำวัสดุ PET และโพลีเอสเตอร์กลับมาใช้ใหม่ และสร้างสรรค์เป็นผลงานที่น่าทึ่ง สามารถสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ที่พบเห็น โดยเริ่มจากการเก็บรวมรวมขวดพลาสติก PET ที่ผ่านการใช้งานแล้วนำมากลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตเม็ด rPET และนำมาปั่นเป็นเส้นใยเส้นด้าย อาทิ พันธมิตรหลักในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ อาทิ ไทยแทฟฟิต้า ที่ให้การสนับสนุนเส้นด้ายที่ผลิตจากขวด PET รีไซเคิลแก่เหล่าดีไซเนอร์ รวมถึงการจัดเวิร์คช้อปจากกูรูในวงการแฟชั่นและการตลาด เพื่อให้ความรู้และเทคนิคในการทำตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพันธมิตรสำคัญอย่าง Ecotopia ที่มาร่วมสนับสนุนพื้นที่ขายภายในร้านเพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลได้สะดวกยิ่งขึ้น

         ชนะจิตร หนูเดช หรือ แม็ค ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ CHANA เล่าว่า “กระเป๋าผ้ารักษ์โลกของเราที่วางขายในพื้นที่ของ Ecotopia  มีสินค้าบางตัวที่ sold out เพราะลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้จริง พอเห็นสินค้าของจริงลูกค้าจะชอบเพราะกระเป๋าผ้าของเราทำจากวัสดุรีไซเคิล โดยมีแรงบันดาลใจจากความประทับใจในภาคใต้ของไทยที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภายใต้คอลเลคชั่น ‘TEMPORARY’ ซึ่งสื่อถึงความไม่ยั่งยืนคล้ายกับคลื่นในทะเลที่ซัดไปมา ไม่มีรูปแบบตายตัว โดยทั้งลายผ้าและ accessories เหมือนการไหลของน้ำและระลอกคลื่นบนพื้นผิวผ้า ต้องขอบคุณความรู้ที่เราได้จากโครงการ RECO Collective ที่สอนเทคนิคในการสร้างแบรนด์และการตลาดออนไลน์ เข้ามาช่วยในการขาย ทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในตลาดนักช้อปออนไลน์ที่ต้องการสินค้าที่ดี สวยงาม และรักษ์โลก”

          “สินค้า Sustainable ของแบรนด์ JIRAWAT เน้นการใช้วัสดุรีไซเคิลมากถึง 80% โดยวัสดุเหล่านี้ได้มาจากผ้าที่ทำมาจากขวด PET รีไซเคิล 100% และอีกส่วนหนึ่งนำมาจากการเดินตลาดวินเทจหลากหลาย อาทิ เน็คไท ผ้าพันคอ และผ้าปูที่นอน มาดีไซน์คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ที่นำงานปักครอสติชมาตัดเย็บบนเสื้อเชิ้ตและกางเกงเส้นใยรีไซเคิล ซึ่งทำให้สินค้าแต่ละชิ้นมีความหลากหลายและไม่ซ้ำใครภายใต้คอนเซ็ปท์ “One of a kind” โดยมีโครงการ RECO Collective เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้แบรนด์ JIRAWAT เติบโตและมีความเป็นมืออาชีพในการดำเนินธุรกิจที่เน้นการใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษ แต่ยังเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” จิรวัฒน์ ธำรงกิตติกุล หรือ ก๊อต ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ JIRAWAT เล่า

         นวีนสุดา กระบวนรัตน์ Head of Global CSR อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวทิ้งท้ายว่า “RECO Collective แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนและการสร้างธุรกิจในอุตสาหกรรม ด้วยการรวมพลังของดีไซเนอร์และพันธมิตรที่มุ่งเน้นการรีไซเคิลและนวัตกรรม ซึ่งนอกเหนือจากแบรนด์ JIRAWAT แบรนด์ CHANA และ แบรนด์ PREM แล้ว ยังมีแบรนด์สินค้ารักษ์โลกที่มาจากโครงการ RECO อีกหลากหลายแบรนด์ เช่น แบรนด์ Endproof, แบรนด์ GOSH, แบรนด์ HeARTh และแบรนด์ MJSN ที่ต่างก็ได้นำเสนอผลงานที่น่าทึ่งและมีความหมายต่อการสร้างสรรค์สินค้าที่ยั่งยืนในเชิงธุรกิจได้แท้จริง นอกจากนี้ผลงานเหล่านี้ยังถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จจากโครงการ RECO Collective ซึ่งเราเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนสำหรับวงการสินค้าไทย และตอบโจทย์ความตั้งใจของอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่ต้องการให้คนทั่วไปเข้าถึงและเกิดความคุ้นเคยกับวัสดุรีไซเคิล โดยเฉพาะขวด PET มากยิ่งขึ้น โดยในอนาคต เรามีแผนที่จะขยายผลโครงการ RECO Collective ให้กว้างขึ้น นอกเหนือจากสินค้าแฟชั่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานสำหรับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกใช้สินค้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลเพิ่มมากขึ้น”


คลิปวิดีโอ