นายสัญญา หวะสุวรรณ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ รักษาการผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติมุ่งเน้นดำเนินงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยการรณรงค์ให้ชาวชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการอยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมภายในชุมชน สร้างแรงจูงใจให้ผู้อยู่อาศัยมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และร่วมมือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายสร้างชุมชนให้เป็นชุมชนที่น่าอยู่น่าสบายอย่างยั่งยืน โดยภารกิจด้านการพัฒนาสังคมของการเคหะแห่งชาติ เป็นภารกิจที่สอดประสานกับนโยบาย
การดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภายใต้การนำของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การเคหะแห่งชาติจึงได้จัดให้มีการประกวดชุมชนดีเด่นขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดขึ้นแก่ชาวชุมชน และเป็นการรณรงค์ให้ชาวชุมชนเกิดจิตสำนึกรักษ์ในชุมชนที่อยู่อาศัย ร่วมกันพัฒนาชุมชนไปในทิศทางที่ชุมชนเป็นผู้กำหนดร่วมกันให้เกิดความยั่งยืน เสริมสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความเอื้ออาทรต่อกัน มีความสุขในการอยู่อาศัยการเคหะแห่งชาติจึงจัดให้มีโครงการประกวดชุมชนขึ้นภายใต้ “โครงการชุมชนสดใส จิตใจงดงาม”
นายสัญญา กล่าวอีกว่า เพื่อส่งเสริมให้ชาวชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการอยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมภายในชุมชนให้สอดคล้องกับโครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ผ่านกระบวนการสื่อสารอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมีทัศนคติเชิงบวกในการเข้าร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาศักยภาพการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการร่วมกิจกรรมพัฒนาด้านต่าง ๆ ของชุมชน เช่น กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด กิจกรรมตามประเพณีสำคัญต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ของการเคหะแห่งชาติในการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนอีกด้วย
สำหรับโครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2567 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกชุมชนที่เข้าร่วมแข่งขัน 3 ประเภท ได้แก่ อาคารแนวราบ อาคารแนวสูง และอาคารเช่า ซึ่งชุมชนที่เข้าประกวดต้องมีการบริหารจัดการด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมชุมชน ด้านกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชนและการบริหารจัดการชุมชน รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน และจัดตั้งกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มอาสาสมัคร กลุ่มอาชีพ เป็นต้น โดยกำหนดเกณฑ์ค่าคะแนนการประเมินชุมชนไว้ 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม ด้านกระบวนการมีส่วนร่วม ด้านการบริหารจัดการชุมชน และด้านครอบครัวเข้มแข็ง พร้อมทั้งมอบเงินรางวัลให้กับชุมชนที่ชนะการประกวดรวมมูลค่าทั้งสิ้น 300,000.-บาท
