นายดลเดช สัจจะวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทได้ปรับเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมเหลือเติบโต 2% อยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท จากเดิมเมื่อช่วงต้นปีมีการตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 43,000 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ซึ่งเป็นผลตามภาวะตลาดรถยนต์ชะลอตัวและเศรษฐกิจซบเซา นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถสร้างเบี้ยรับรวมได้ในระดับ 22,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถผลิตเบี้ยใหม่เพิ่มได้ตามเป้า
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทยังสามารถรักษายอดขายประกันรถยนต์ได้ในภาวะที่ยอดขายรถยนต์ซบเซาและการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งได้ 2 ช่องทางสำคัญที่มีส่วนช่วยไว้คือ 1. ช่องทางตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดา ที่ปัจจุบันสามารถสร้างเบี้ยประกันให้กับบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของเบี้ยรับรวม โดยมีจำนวนตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดาอยู่ทั้งหมด 3,400 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในอุตสาหกรรมฯ และ 2. ช่องทางนายหน้านิติบุคคล ที่สร้างเบี้ยประกันให้กับบริษัท คิดเป็นสัดส่วนอีก 30%
นายดลเดช กล่าวต่ว่า ในส่วนของแผนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง มีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดารายใหม่อีกประมาณ 200 ราย เพื่อเข้ามาช่วยเสริมทัพการให้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ยังมีช่องว่างการอยู่อีกพอสมควร ดังนั้นจะทำให้การบริการประกันของบริษัทครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ก็ขอประกาศว่าพร้อมเดินหน้ารับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อทำตลาดในปีนี้อีกด้วย ซึ่งประกอบด้วย 1. ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล 2. ประกันชั้น 1 PayLite จ่ายเท่าที่ขับ และ 3. ประกันอุบัติเหตุ ขับขี่สุขใจ V-Motor Add On