บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนขององค์กร #SupalaiSustainability ตามแนวคิด #ESG มุ่งเน้นศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม จับมือพันธมิตรธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้าง บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผุดโปรเจกต์ยักษ์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” นำร่อง 2 โครงการคอนโดมิเนียม และเลือกใช้ “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” สำหรับบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย โดยทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา ช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 332,179 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าชดเชยการปลูกต้นสักได้ถึง 19,313 ต้น ตั้งเป้าปี 67 เดินหน้าเพิ่ม 23 โครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อพิชิตการเป็นองค์กร Zero Waste
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG โดยมีส่วนร่วมใส่ใจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่บริษัทฯ เน้นย้ำมาโดยตลอดระยะเวลา 35 ปี โดยมีการตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual) พร้อมตระหนักถึงการคิดค้น หาวิธีการและนวัตกรรมที่จะมาช่วยชดเชยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดจากกิจกรรมของธุรกิจอสังหาฯ
หนึ่งในเรื่องที่ศุภาลัยเน้นย้ำและผลักดันมาตลอด คือ การคัดสรรวัสดุก่อสร้างจากพันธมิตรธุรกิจ ที่เน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ รวมถึงการบริหารจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง (Waste Management) ให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ ซึ่งสามารถนำเศษวัสดุก่อสร้างมาต่อยอดให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุด โดยบริษัทฯ ได้มีการหารือ พูดคุยและร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนากระบวนการก่อสร้าง พร้อมการวางแผนจัดการที่ดีทั้งในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย
ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายนวัตกรรม ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจนเป็นโปรดักส์ใหม่ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากล ถูกนำมาใช้ภายในโครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัย พร้อมการันตีคุณภาพการก่อสร้าง สร้างความเชื่อมั่น และส่งต่อแนวความคิดด้านสิ่งแวดล้อม สร้างการเรียนรู้ให้กับลูกบ้านศุภาลัยทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน การอยู่อาศัยแบบรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมแบ่งปันนวัตกรรมที่ร่วมสร้างสรรค์กับพันธมิตรธุรกิจส่งต่อสู่สาธารณะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนพันธกิจ Zero Waste ระดับประเทศ
นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศุภาลัยมุ่งมั่นให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนในทุกมิติ พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในวิธีการ คือการพูดคุยอย่างจริงใจกับพันธมิตรธุรกิจ เสนอความคิดเห็นและความต้องการ หาแนวร่วมเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวร่วมกัน โดยการคิดค้น-ออกแบบวัสดุ และผลักดันแนวคิด Waste Management ในกระบวนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะพันธมิตรที่สำคัญอย่างทีโอเอ ที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันจนทำให้เกิดโปรเจกต์ยักษ์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” นำร่อง 2 โครงการคอนโดมิเนียม โดยการนำเศษฝ้าที่เหลือใช้จากงานก่อสร้างหน้างาน นำมาผ่านกระบวนการใหม่ที่ได้คุณภาพมาตรฐานดีเหมือนเดิม และยังช่วยลดวัสดุเหลือใช้ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งนวัตกรรม “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากการลดการใช้สีรองพื้น สำหรับโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย โดยทั้งสองนวัตกรรมดังกล่าว สามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 332,179 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ชดเชยการปลูกต้นสักได้ถึง 19,313 ต้น ภายใน 1 ปี ลดการใช้น้ำได้ถึง 98,347 ลิตรต่อปี ตลอดจนยังมีการตั้งเป้าหมายใช้นวัตกรรมฝ้ายิปซัม รักษ์โลก อีก 23 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม ภายในปี 2567
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสีรองพื้นและสีทับหน้ารูปแบบใหม่ Direct to Metal ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานสีรวมได้กว่า 10 ชั่วโมง จากรอบการทาและรอบรอสีแห้งที่ลดลง เมื่อเทียบกับสีรูปแบบเดิมโดยยังคงประสิทธิภาพสีเท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมในการก่อสร้างที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอีกมากมาย ร่วมกันสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยรักษ์โลก เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดไป
ด้าน นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับ ทีโอเอ ในฐานะผู้นำตลาดและภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตสีในประเทศไทยและอาเซียน โดยตลอดระยะเวลา 60 ปี เรามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขอนามัยของผู้บริโภคและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เราจึงเป็นผู้ผลิตสีรายแรกในประเทศไทย ที่ยกเลิกการใช้สารโลหะหนัก ปรอท ตะกั่ว ในสีทาอาคารได้สำเร็จ ตั้งแต่ปี 2520 รวมทั้งการไม่หยุดพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมสีที่ปลอดภัย ใส่ใจต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งพัฒนาสู่การเป็นองค์กรยั่งยืน (SDGs) ตามแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จึงได้ประกาศนโยบาย Green Mission เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2593 ตามโรดแมปอย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งหนึ่งพันธกิจหลักที่เราทำอย่างต่อเนื่อง คือ การร่วมมือกับพันธมิตรภาคธุรกิจที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อโลกอย่างยั่งยืน หรือ Green Partner ในการสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรมสีเขียวที่ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการคิดค้นโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์คู่ค้าและผู้บริโภค ที่จะช่วยลดผลกระทบทางลบให้กับโลก ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน และยกระดับที่อยู่อาศัย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับทุกคน (Better Health & Wellness)
ล่าสุดเราจึงได้จับมือกับพันธมิตรองค์กรสีเขียวอย่าง “ศุภาลัย” ที่มีนโยบายสู่การเป็นองค์กร Zero Waste เช่นเดียวกับเรา ที่ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการของเสียให้เป็นศูนย์ เพื่อช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลักดันจนเกิดเป็นบิ๊กโปรเจกต์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” ที่มีแนวคิดมาจากการพยายามลดเศษวัสดุฝ้าเหลือใช้ที่จะกลายเป็นของเสียในโครงการก่อสร้างต่างๆ แล้วนำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด โดยได้เริ่มนำร่องไปแล้วกับ 2 โครงการคอนโดมิเนียม ‘ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ และ ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์’ ที่สามารถนำเศษวัสดุฝ้าจากหน้างานมาเข้ากระบวนการใหม่ได้ถึง 13.26% ทำให้ช่วยลดของเสียได้กว่า 10% และช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 2.50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตารางเมตร
นอกจากนี้ ศุภาลัยยังได้ใช้นวัตกรรม “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีทับหน้ารวมรองพื้นไว้ในกระป๋องเดียว สามารถทาง่ายเพียง 2 เที่ยว ไม่ต้องทารองพื้น ช่วยประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงานให้กับผู้ใช้งาน ที่สำคัญยังช่วยประหยัดการใช้น้ำได้อย่างมาก อาทิ การทาสี รุ่น Expert ในพื้นที่บ้านเดี่ยว 150 ตร.ม. ที่มีพื้นที่ฝ้า 450 ตร.ม. จะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 78.70 ลิตรต่อหลัง และหากเทียบกับสีระบบเดิมที่ศุภาลัยใช้ จะช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 98,347 ลิตรต่อปี อีกทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ทาสีรองพื้นได้ถึง 2,297 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของสองพันธมิตรผู้นำนวัตกรรมสีเขียวที่มีเป้าหมายเดียวกัน ในการคิดและลงมือทำร่วมกัน เพื่อช่วยโลกลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างยั่งยืน