แอกซ่าประกันภัย ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการ สู่ตึกสยามปทุมวัน เฮาส์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงาน พร้อมชูแนวคิดการทำงาน “Smart Working” ที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตควบคู่กับการเสริมศักยภาพในการทำงานให้กับพนักงานได้อย่างสมดุล และการให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงานทุกคนเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมรูปแบบการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งเป้าพัฒนาสู่การเป็น Empowering workplace ของพนักงานในทุกช่วงวัย
มร. โคลด เซนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำว่า “แอกซ่าประเทศไทย ได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน ซึ่งสอดรับกับพันธกิจหลักของกลุ่มแอกซ่าทั่วโลก ในการสร้างวัฒนธรรมเชิงบวกภายในองค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอย่างมีคุณภาพ”
กลุ่มแอกซ่า ให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี นำมาสู่การพัฒนาแนวคิดการทำงานรูปแบบ “Smart Working” เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานในทุกๆ ด้านของพนักงาน รวมถึงความต้องการที่หลากหลายอย่างเหมาะสม เพื่อให้แอกซ่ากลายเป็น Empowering workplace ของพนักงานทุกๆ คน ผ่าน 5 แกนสำคัญ ได้แก่ Flexibility เปิดโอกาสให้พนักงานมีอิสระทางความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารจัดสรรเวลาด้านการทำงานที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิต Team Connection มุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในองค์กร เพื่อการทำงานอย่างมีคุณภาพ Technology โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้จากในทุกที่บนโลก Work-Life Balance ส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว และ Wellbeing & Mental Health ให้ความสำคัญด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจควบคู่กัน ซึ่งเป้าหมายของแนวคิดนี้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่แบบองค์รวมที่ดียิ่งขึ้นให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงานภายในองค์กรแล้ว แอกซ่ายังใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งอาคารสยามปทุมวัน เฮาส์ เป็นสำนักงานที่ได้รับมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold และ FITWELL ตอกย้ำความเป็นองค์กรธุรกิจประกันชั้นนำที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมหรือ Green Insurer เพื่อขับเคลื่อนให้ผู้คน สังคม และโลกเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน” มร. โคลด กล่าวสรุป