กระแสความยั่งยืน และเทรนด์ด้านนวัตกรรมประหยัดพลังงานได้เข้ามาเป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจและส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเทรนด์ดังกล่าวนั้นเป็นเสมือนตัวกำหนดอนาคตภาคธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนไลฟ์สไตล์ทีเปลี่ยนไปเช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมการบินที่นับว่าเป็นทั้งโอกาสก้าวสำคัญและความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ “สายการบินรักษ์โลก” โดยวันนี้บางกอกแอร์เวย์ส ขออาสานำทุกท่านพร้อมออกเดินทางสู่เส้นทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่จะตอบโจทย์ผู้โดยสารให้ได้สัมผัสประสบการณ์ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรรมตั้งแต่แรกใช้บริการผ่านมุมมองของ กัปตันเต๋-พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แนวคิดการเชื่อมโยงความสุขสานต่อถึงชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน “Connect Your Happiness” ในมิติ ESG ดังนี้
Environmental Journey – การปูเส้นทางการบินสีเขียว ภารกิจใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดัน
กัปตันพุฒิพงศ์ เล่าว่า “ECO Friendly” ถือเป็นโจทย์สำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจของทุกวันนี้ที่เน้นกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก จึงนับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมการบินรวมถึงธุรกิจท่าอากาศยานทั่วโลก ซึ่งทุกภาคส่วนทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อรับมือกับปัญหาทางด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ-วิกฤติสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มทวีคูณความรุนแรงขึ้นจากหลายปัจจัย โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการบินอาจถูกมองว่าเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่เนื่องจากเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนอันดับ 3 ของภาคการขนส่ง หรือ 11% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ของรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงกรอบนโยบายของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ‘ไออาต้า’ (The International Air Transport Association: IATA) ที่วางแผนจะก้าวเข้าสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission หรือคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 เช่นเดียวกันกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สที่ให้ความตระหนักต่อการจัดการกับปัญหาทางสิ่งแวดล้อมผ่านหลายโครงการที่เป็นรูปธรรม อาทิ
-ด้านการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Crisis Management) ประกอบด้วย โครงการการวางแผนใช้น้ำมันอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันได้มีการวางระบบปฏิบัติการสำหรับนักบินประจำสายการบินฯ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันอย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังได้วางแผนศึกษาการใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuels: SAF) และบูรณาการเทคโนโลยี
– นวัตกรรมต่าง ๆ มาช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมกันนี้ยังได้เข้าร่วมโครงการ “Carbon offsetting and Reduction Scheme for International Aviation” ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนให้ภาคการบินบรรลุเกณฑ์การรักษาระดับปริมาณการปล่อยคาร์บอนสุทธิอย่างสมดุล
“เพื่อตอกย้ำเป้าหมายการสร้างอุตสาหกรรมการบินสีเขียว หรือ Green Aviation ที่มุ่งเน้นลดมลพิษและก๊าซเรือนกระจก บางกอกแอร์เวย์สได้เดินหน้าโครงการพัฒนาสนามบินสีเขียว นำร่องด้วย 3 สนามบินภายใต้การบริหารของบริษัทฯ “สมุย ตราด สุโขทัย” เพื่อชูโมเดลการจัดการทรัพยากรและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการปรับปรุง-พัฒนาการออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารให้มีลักษณะเปิดโล่งและจัดให้มีพื้นที่สีเขียวโดยรอบสนามบิน การันตีด้วยรางวัลตราสัญลักษณ์ “G – Green” จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ประกาศให้สนามบินสมุยและสนามบินตราดเป็นกรีนแอร์พอร์ต หรือสนามบินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปี 2021 นอกจากนี้ในอนาคตยังมุ่งกำหนดแนวทางเพื่อปั้นเมกะโปรเจกต์ที่สำคัญระดับประเทศอย่างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกให้เป็นหนึ่งในสนามบินสีเขียวที่มีผลงานโดดเด่นระดับภูมิภาคอีกด้วย”
ด้านการบริหารจัดการของเสีย (Waste Management)
บางกอกแอร์เวย์สได้วางแผนดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำตลอดจนถึงปลายน้ำเพื่อบริหารจัดการของเสียตามห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ภาชนะพลาสติกในห้องรับรองผู้โดยสาร การจัดตั้งโครงการแยกขยะได้ประโยชน์ และตั้งจุดรับคืนขวดพลาสติกไร้ฉลาก (Drop Box) ณ บริเวณห้องรับรองผู้โดยสาร รวมถึงการนำเอากระบวนการอัปไซคลิ่งเข้ามาใช้ เช่น การนำเอาเส้นใยจากชุดยูนิฟอร์มเก่าของพนักงานไปแปรรูปและผลิตใหม่เป็นชุดผ้ากันเปื้อนสำหรับให้พนักงานสวมใส่ รวมถึงการแปรรูปเส้นใยพลาสติกเป็นเสื้อวิ่งมาราธอนในแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาประจำปี “Bangkok Airways Boutique Series” ที่รณรงค์ให้มีการท่องเที่ยววิถีอนุรักษ์ พร้อมกับการผนวกกิจกรรมรักษ์โลกให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอีกด้วย
กัปตันพุฒิพงศ์ เล่าว่า เพื่อเน้นย้ำเป้าหมายการลดคาร์บอนในกระบวนการทำงาน ล่าสุด บริษัทฯ จึงได้ริเริ่มวางแผนสำหรับโครงการ “Low Carbon Skies by Bangkok Airways โดยจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2567 เพื่อมุ่งสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ตามแนวทางของไออาต้า (IATA) ที่เน้นด้านการจัดสรรการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) การกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่แหล่งกำเนิด การชดเชยและการดักจับคาร์บอน การศึกษาการนำเทคโนโลยีใหม่ไฟฟ้าและไฮโดรเจนเข้ามาใช้ และการปรับปรุงด้านโครงสร้างพื้นฐานและประสิทธิภาพการดำเนินงาน
S ocial Development เพราะหัวใจสำคัญของก้าวที่ยั่งยืน คือการก้าวไปพร้อมกับชุมชน
กัปตันพุฒิพงศ์ เล่าถึงสายใยความผูกพันของสายการบินที่มีส่วนเชื่อมโยงต่อสังคมไทยว่าตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมา บางกอกแอร์เวย์สมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนเพื่อเป็นสายการบินที่ดีที่สุดของเอเชียโดยคำนึงถึงการสนับสนุนชุมชนและสังคมเป็นหัวใจสำคัญ สะท้อนผ่านพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในเส้นทางที่บริษัทฯ ทำการบินรวมกว่า 11 หมุดหมายแห่งอารยธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนถึงการจัดตั้งชุมชนสัมพันธ์สนามบินจำนวน 3 แห่ง ณ สมุย ตราด และสุโขทัย โดยได้เข้าไปสร้างปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชุมชน ผ่านการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน เพื่อรับรู้ถึงปัญหาและเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพัฒนาในด้านต่าง ๆ ที่จะสามารถสานพลังสร้างสรรค์ชุมชนให้น่าอยู่ อย่างยั่งยืน อาทิ การจัดกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ที่ดำเนินงานโดยทีมอาสาสมัคร “Blue Volunteers”ซึ่งเป็นพนักงานของบางกอกแอร์เวย์ส โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชีพในชุมชนให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหอยนางรมท่าโสม จ.ตราด เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนสังคมในด้านอื่น ๆ เช่น โครงการสนับสนุนอาชีพคนพิการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้มีงานทำและมีรายได้ที่มั่นคง สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2019 และด้านการศึกษา บางกอกแอร์เวย์สได้จัดตั้ง โครงการติดปีกเติมฝัน สร้างสรรค์โอกาสการเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ “Learning-by-doing”
“ผู้โดยสารทุกท่านที่มีโอกาสได้ใช้บริการกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สจะได้สัมผัสประสบการณ์ความยั่งยืนตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการเสิร์ฟอาหาร ณ บูทีคเล้าจน์ ที่รวบรวมผลิตผลจากชุมชนเกษตรกรสดจากสวนมารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษเสิร์ฟตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น เมนูมะยงชิดลอยแก้ว ส่งตรงจากโครงการเกษตรอินทรีย์ จ.สุโขทัย และกาละแมลำไย วัตถุดิบจาก จ. เชียงใหม่ เป็นต้น เท่ากับว่าเพียงก้าวเข้ามาใช้บริการ ก็ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนชุมชนยั่งยืนไปกับบางกอกแอร์เวย์ส”
G ood Governance ธุรกิจการบินกับมิติธรรมาภิบาล
กัปตันพุฒิพงศ์ เล่าต่อว่า ตั้งแต่แรกก่อตั้งสายการบินบางกอกแอร์เวย์สบริษัทฯ มีเป้าหมายในการดำเนินงานและพัฒนาระบบการบริหารจัดการของบริษัทฯ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ถ่ายทอดแนวความคิดจากรุ่นสู่รุ่น
“เพื่อเป็นการการันตีถึงการดำเนินธุรกิจตามกรอบธรรมาภิบาล และการขับเคลื่อนธุรกิจที่ให้ความสำคัญทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ล่าสุดบริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2566 “SET ESG Ratings 2023” ระดับ BBB ในกลุ่มธุรกิจบริการ (Services) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับคะแนน CGR บริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี อีกทั้งยังได้รับการพิจารณาผ่านเกณฑ์ประเมินสำหรับรางวัลการันตี “ดาวแห่งความยั่งยืน” ระดับ 5 ดาว ในโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน และรางวัลการันตีด้านสิ่งแวดล้อมโดยได้รับประกาศนียบัตร “EIA Symposium and Monitoring Awards 2023” ซึ่งสนามบินสุโขทัย-สนามบินสมุยได้รับรางวัลยอดเยี่ยม – ดีเด่น ในโครงการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 เพื่อสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้เสียและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจพร้อมมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินธุรกิจสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นหนึ่งในสายการบินรักษ์โลกอย่างเต็มขั้นต่อไปในอนาคต”