RML ประกาศความภาคภูมิใจล่าสุดจากความสำเร็จของ ‘OCC (One City Centre)’ อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่วันนี้ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED Certification (Leadership in Energy and Environmental Design) ในระดับ Gold Certified ในฐานะอาคารที่อนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council :USGBC) เป็นผู้รับรอง เป็นที่เรียบร้อย
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML เผยว่า “ด้วยความตั้งใจที่จะให้ OCC เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของไทย และเอเชีย ที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์โดดเด่น แต่เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบ โดยเราทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาในการออกแบบอาคาร ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม วิศวกรรมงานระบบ เพื่อสร้างให้อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทยแห่งนี้ เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานระดับโลกในทุกมิติ และนับเป็นความภาคภูมิใจล่าสุดที่ OCC ได้รับ LEED Gold Certified จากสภาอาคารสีเขียวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการยอมรับในระดับนานาชาติด้านการออกแบบและก่อสร้างอาคารอย่างยั่งยืน โดยถูกนำมาใช้ประเมินอาคารต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลกมานานกว่า 10 ปี ทั้งนี้ความโดดเด่นของ OCC คือคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เช่าและสาธารณชนเป็นหลัก มีพื้นที่สีเขียวประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ใครก็สามารถมาใช้ประโยชน์ได้ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และเป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางเพลินจิตที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่ชุมชน รวมถึงยังเป็นอาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี โดยมีระบบ MERV14 ที่ช่วยกรองอากาศ และกรองฝุ่น PM 2.5 รวมถึงมีการใช้วัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดสารอันตรายภายในอาคาร จึงมั่นใจได้ว่าผู้เช่าในอาคารทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี ตลอดจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในการทำงานอีกด้วย”
RML ได้ตัดสินใจทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษาต่างๆ ตั้งแต่ก้าวแรกของการออกแบบตลอดจนการก่อสร้าง รวมเป็นระยะเวลา 6 ปี เพื่อให้ OCC มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับเกณฑ์ต่างๆ ตามมาตรฐาน LEED Certification เริ่มตั้งแต่
1. กระบวนการจัดการแบบบูรณาการ (Integrative Process) ได้มีการวางระบบจัดการน้ำ และทรัพยากรต่างๆ ไว้ตั้งแต่ขั้นแรกของการออกแบบอาคาร
2. ที่ตั้งและการขนส่ง (Location and Transportation) OCC ตั้งอยู่บริเวณถนนเพลินจิต ติดบีทีเอสเพลินจิต มี Sky Walk ที่สามารถเดินจาก BTS เพลินจิตตรงเข้าสู่ตัวอาคารได้เลย และสามารถใช้ระบบการขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งทางโครงการยังจัดเตรียมพื้นที่ชารจ์รถยนต์ไฟฟ้า ช่องจอดจักรยาน และห้องอาบน้ำเพื่อรองรับการใช้งานในส่วนของการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. สถานที่ตั้งเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Sites) OCC ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ที่เป็น open space มากกว่า 50% พื้นที่ดินโครงการจัดเป็นพื้นที่สำหรับผู้ใช้อาคารสามารถใช้งานได้ในกิจกรรมต่างๆ
4. การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ (Water Efficiency) มีการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยได้มีการนำน้ำใช้กลับมารีไซเคิลเพื่อใช้สำหรับ Cooling tower, รดน้ำต้นไม้ในโครงการและอื่นๆ
5. การใช้พลังงานและบรรยากาศโดยรวม (Energy & Atmosphere) ได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศรวม ระบบบริหารอาคาร รวมไปถึงการใช้กระจกคุณภาพดี ทำให้โครงการสามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 20% เมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป
6. วัสดุและทรัพยากร (Materials & Resources) เน้นการใช้วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้อาคารทั้งในแง่สุขภาพและความปลอดภัย รวมไปถึงได้มีการเตรียมพื้นที่จัดการขยะแต่ละประเภท เพื่อคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
7. มาตรฐานสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environmental Quality) OCC ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพอากาศภายในอาคารสำหรับสุขภาพของผู้ใช้อาคาร จึงได้มีการเพิ่มปริมาณการจ่ายอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่มากกว่ามาตรฐานถึง 30% รวมไปถึงระบบการกรองอากาศแบบ MERV14 ซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 จึงสามารถมั่นใจได้ว่าอากาศภายในโครงการมีคุณภาพที่ดีเหมาะกับสุขภาวะของผู้ใช้อาคาร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา OCC ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากหลากหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Fitwel โดย Center for Active Design (CfAD) จากสหรัฐอเมริกาในระดับ 2 ดาว ในฐานะอาคารที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นด้านคุณภาพและให้ความมั่นใจกับทางผู้เช่าเรื่องความเป็นมิตรต่อการทำงานและการใช้พื้นที่สำนักงาน รวมถึงรางวัลการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งปี (Office Development of the Year) จากเวที Real Estate Asia Awards 2021 ในไทย ด้วยนวัตกรรมการจัดการโครงการที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
