พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตอกย้ำผู้นำเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัย เชื่อมต่อ Property Living Ecosystem ผ่าน 4 Platforms ที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการบริหารจัดการเพื่อส่งมอบคุณภาพงานบริการให้แก่ลูกบ้านในทุกระดับ
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า “พลัสฯ ได้มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมโยงทุก Platform ให้ครบทุกมิติด้านการบริหารอาคารและที่พักอาศัย เกิดเป็น Ecosystem ที่เชื่อมต่อการทำงานของทั้ง 4 Platforms เข้าหากัน เพื่อนำมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและยกระดับมาตรฐานในการบริหารจัดการ ให้สอดรับกับการใช้งานของผู้พักอาศัย เสริมสร้างให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดี พลัสฯ มีการพัฒนาเทคโนโลยี Living Plus Application อย่างต่อเนื่อง ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับสื่อสารและให้บริการกับลูกบ้าน ช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ในชีวิตให้ได้รับความสะดวกสบาย รวมถึงเป็นช่องทางไว้ติดต่อสื่อสารกับนิติบุคคล อาทิ
แจ้งข่าวสารในโครงการ แจ้งซ่อม รับพัสดุ จองห้องส่วนกลาง ชำระค่าใช้จ่ายโดยเชื่อมต่อกับ Platform ของธนาคาร สามารถผ่อนชำระค่าส่วนกลาง หรือชำระผ่านบัตรเครดิตได้ เป็นต้น โดยมีการเก็บข้อมูลการใช้งานจริงจากโครงการต่างๆ มาพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานได้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Living Management System (LMS) ที่เป็น Platform ในการบริหารจัดการฐานข้อมูลผู้พักอาศัย โดยเชื่อมต่อระบบบัญชีการเงิน ช่วยในการวางแผนจัดสรรงบประมาณให้มีความเหมาะสม สามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินได้อย่างโปร่งใสไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าส่วนกลาง และค่าสาธารณูปโภค การทำธุรกรรมต่างๆ ยังเป็น Cashless มีความถูกต้องแม่นยำ ตรวจสอบได้ นอกจากเทคโนโลยีที่ดูแลเรื่องการอยู่อาศัยแล้ว ยังมี Platform ที่ใช้สำหรับดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร Building Operation System (BOS) ที่เก็บข้อมูลเครื่องจักรในอาคาร มาประมวลผลและกำหนดแผนงานการซ่อมบำรุงที่ชัดเจนในการดูแล
โดยเป็นการทำงานแบบ Preventive Maintenance ป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสียหาย ซึ่งสามารถควบคุมมาตรฐานของช่างอาคาร ด้วยการสแกน QR Code เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันเพื่อปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ สามารถตรวจสอบการทำงาน ลดความผิดพลาดจาก Human Error โดยมีการแจ้งเตือนการทำงานที่ผิดปกติไปที่ผู้ดูแล เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อข้อมูลการแจ้งซ่อมจากผู้พักอาศัย จึงทำให้ฝ่ายจัดการฯ สามารถบริหารงานและติดตามการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผู้พักอาศัยสามารถรับทราบสถานะการให้บริการได้อีกด้วย และสุดท้ายคือระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะจาก LIV-24 ที่เชื่อมต่อระบบ Visitor Management System (VMS) ที่ใช้ในการตรวจสอบยานพาหนะที่เข้ามาในพื้นที่โครงการ โดยมีระบบอ่านป้ายทะเบียน (License Plate Recognition) ที่นำ AI เข้ามาใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านอุปกรณ์ในการสแกนเข้าออก รวมถึงเปิดช่องทางการลงทะเบียนเข้าโครงการล่วงหน้าผ่าน Living Plus Application และทำการ E-Stamp และชำระค่าที่จอดรถ เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น