วันพฤหัสบดี ที่ 19 กันยายน 2567 08:38น.

UOB จับมือ พรูเดนเชียลฯ ออกประกัน UOB Premier 7/14 เพิ่มพลังการออม

10 กันยายน 2021

        “เงินเก็บ” สิ่งสำคัญอันดับแรกที่หลายๆคน เฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มต้นวัยทำงาน อยากมีและอยากเก็บออมให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้เป็นต้นทุนในการไล่ตามความฝันของตัวเอง สำหรับ UOB Premier นี้เป็นหนึ่งในแผนประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ โดยจ่ายเบี้ยฯ เพียง 7 ปี รับความคุ้มครองชีวิตยาวตลอดอายุสัญญา 14 ปี รวมคิดเป็นเงินคืนตลอดสัญญา 724% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

        เพื่อให้ทุกคนสามารถออมเงินและเพิ่มพูนความมั่งคั่งทางการเงินได้ดีมากยิ่งขึ้น ทางธนาคารยูโอบี และบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) (พรูเด็นเชียล ประเทศไทย) จึงขอนำเสนอเคล็ดลับ “เพิ่มพลังการออม ด้วยการวางแผนทางการเงินอย่างเข้าใจและชาญฉลาด” เพื่อพิชิตเป้าหมายเงินเก็บที่ช่วยให้ทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างที่ตั้งใจ รวมถึงนำเสนอตัวช่วยดี ๆ ที่ทำให้การออมเงินของคุณง่ายขึ้น

         ก่อนออกสตาร์ทแน่นอนว่าการกำหนดเป้าหมายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้เราไม่หลงทาง และไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยการกำหนดเป้าหมายในการออมเงินนี้ อาจจัดสรรเงินออมง่าย ๆ เป็น 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ 1) การออมเงินเผื่อในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นส่วนที่ควรเก็บสะสมไว้ในรูปแบบกระแสเงินสดเพื่อให้สามารถนำออกมาใช้จ่ายได้ทันที ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีจำนวนเงินครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ประมาณ 6 เดือน 2) ออมเพื่อการเกษียณ ซึ่งเป็นการออมระยะยาวเพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณของแต่ละคนมีความมั่งคั่งและมั่นคงโดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน 3) ออมเพื่อเติมเต็มความฝัน ซึ่งถือเป็นการออมระยะกลาง เพื่อนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่เราต้องการ อาทิ การท่องเที่ยว หรือช้อปปิ้ง และสุดท้าย คือ 4) การออมเพื่อการลงทุน ที่ส่วนนี้จะเป็นการออมเพื่อนำเงินไปต่อยอดให้งอกเงย ด้วยวิธีการและตัวเลือกในการลงทุน หรือนำไปออมในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนเราได้อย่างคุ้มค่า อาทิ หุ้น กองทุน หรือตัวเลือกอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการออมในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตด้วย โดยในสี่ส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามความต้องการของแต่ละคน แต่ไม่ควรรวมกันแล้วน้อยกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมด

        โดยสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงการออมเงิน ก็คือการฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารต่าง ๆ ซึ่งเป็นวีธีออมเงินที่คุ้นเคยและทำกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ดำเนินการได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ผลตอบแทนที่ได้อาจจะน้อยเกินไปสำหรับการสะสมและเพิ่มพูนเงินให้ได้ตามที่หวัง โดยจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศ เกี่ยวกับเครื่องชี้เศรษฐกิจมหภาคของไทย ที่ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 พบว่าอัตราดอกเบี้ย (ณ สิ้นปี) ลดลงเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ (1 ปี) ที่สูงที่สุดในปี พ.ศ. 2563 จะอยู่ที่ 0.50 ในขณะที่ในปีพ.ศ. 2562 อยู่ที่ 1.55

        เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลาย ๆ คนจึงมองหาวิธีการออมเงินในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ผลตอบแทน ที่จะเกิดจากการนำเงินไปออม หรือนำไปลงทุนวิธีต่าง ๆ ในรูปแบบของผลกำไรและเงินปันผล, อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งการออมเงินที่ดีต้องสามารถเพิ่ม ‘ค่าของเงิน’ ให้มากกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น โดยสามารถดูข้อมูลอัตราเงินเฟ้อได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และระยะเวลาในการออม เพราะยิ่งออมเร็ว เงินก็ยิ่งงอกเงยเร็ว ตามความอัศจรรย์ของการทบต้นทบดอกนั่นเอง โดยปัจจุบันมีตัวเลือกในการออมเงินและลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกในการนำเงินออมไปลงทุน อย่างตราสารทุน หรือในหุ้น กองทุนรวม หรือแม้แต่การลงทุนเลือกอื่น ๆ อาทิ

        การลงทุนในโลหะมีค่า อย่างเช่น ทองคำ แต่สำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงไหว แนะนำให้เริ่มออมเงินในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนที่แน่นอน อาทิ การฝากออมทรัพย์ การฝากประจำ การซื้อสลากออมทรัพย์ หรือแม้แต่การซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือ Saving Insurance อย่าง ยูโอบี พรีเมียร์ (UOB Premier) ที่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากออมเงินและจัดการความเสี่ยงในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วย เพราะได้รับความคุ้มครองชีวิตพร้อมผลตอบแทนที่แน่นอนทุกปี เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพราะค่าเบี้ยฯ เบื้องต้นไม่สูงมากนัก

        สำหรับ UOB Premier นี้เป็นหนึ่งในแผนประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่นำเสนอขายโดยธนาคารยูโอบี และรับประกันชีวิตโดย พรูเด็นเชียล ประเทศไทย สมัครได้ง่าย ไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ* โดยจ่ายเบี้ยฯ เพียง 7 ปี รับความคุ้มครองชีวิตยาวตลอดอายุสัญญา 14 ปี พร้อมรับเงินคืนที่การันตีว่าได้แน่นอน ปีละ 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-13 และเมื่อครบกำหนดสัญญาปีกรมธรรม์ที่ 14 รับเงินก้อน 700% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย รวมคิดเป็นเงินคืนตลอดสัญญา 724% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมโอกาสรับเงินปันผลทุกปี (ถ้ามี)** นอกจากนี้ เบี้ยประกันภัยยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท (ตามหลักเกณฑ์กรมสรรพากร) รวมถึงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็ยังได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 105% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้วทั้งหมดอีกด้วย

        ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจออมเงินในรูปแบบประกันชีวิตต้องคำนึงถึงสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองด้วย เพราะการออมในรูปแบบนี้จะมีสภาพคล่องที่น้อยกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินมาใช้ได้ตลอด หรือแม้แต่การออมในบัญชีฝากประจำส่วนใหญ่ก็มีระยะเวลาในการออมที่น้อยกว่า ซึ่งหากออมเงินในรูปแบบประกันชีวิตและต้องการเวนคืนก่อนครบกำหนด อาจได้รับเงินคืนน้อยกว่าเบี้ยประกันที่ชำระไปแล้ว หรือน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้


คลิปวิดีโอ