BOSCH เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำ BITURBO Brushless กลุ่ม 18V
กลุ่มบริษัทบ๊อช (Bosch Group) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องมือไฟฟ้าไร้สาย ยกระดับมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพ เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำ BITURBO Brushless เทคโนโลยีมอเตอร์ไร้แปรงถ่านประสิทธิภาพสูง ผสานกำลังแบตเตอรี่ ProCORE 18V รุ่นใหม่ที่มีกำลังแรง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกสภาวะการใช้งานได้อย่างมืออาชีพ ตอกย้ำผู้นำตลาดเครื่องมือไฟฟ้าอย่างแท้จริง
BITURBO คือ นวัตกรรมใหม่สำหรับเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายบ๊อชที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานแบบมืออาชีพอย่างแท้จริง โดยผสานสองขุมพลัง มอเตอร์ไร้แปรงถ่านประสิทธิภาพสูง (Brushless Motor) ที่ผลิตจากแม่เหล็กนีโอไนเดียมคุณภาพสูง ทนทาน ให้กำลังสูงสุดถึง 1,800 วัตต์ เทียบเท่าเครื่องมีสายประเภทงานหนัก ผสานเข้ากับ ProCORE 18V แบตเตอรี่ที่ให้กำลังตัวเครื่องได้เพิ่มขึ้นกว่า 87% ด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ที่มาพร้อมระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะเทคโนโลยี COOL PACK 2.0 ที่จะช่วยคลายความร้อนที่เกิดจากการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นและเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่ได้มากถึง 135% เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวจากบ๊อชเท่านั้น
นายธีรทัศน์ ประเสริฐเมธากุล ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายเครื่องมือไฟฟ้า บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และบ๊อชซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมในตลาดเครื่องมือไร้สาย โดยในปีนี้บ๊อชได้เปิดตัวเครื่องมือไฟฟ้าไร้สาย 18V ใหม่ 13 รายการ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม BITURBO ประกอบไปด้วย สว่านโรตารี่, สว่านไขควง, ประแจกระแทก, เครื่องเจียรและเลื่อยวงเดือน กลุ่มเครื่องมือไร้สาย 18V ที่มาพร้อมเทคโนโลยีมอเตอร์ไร้แปรงถ่านประสิทธิภาพสูง (Brushless Motor) ด้วยคุณสมบัติเทียบเท่ากับเครื่องมือแบบมีสายประเภทงานหนัก และแบตเตอรี่กำลังสูง ProCORE18V ซึ่งการผนึกกำลังระหว่างสองนวัตกรรมนี้ เรียกว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพ รองรับงานหนักอย่างเต็มรูปแบบ และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม BITURBO มาพร้อมชิปอัจฉริยะ เพื่อขยายการรองรับนวัตกรรมการเชื่อมต่อในเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Bosch ToolBox
บ๊อช มุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องมือไฟฟ้า ผ่านการทำตลาดกลุ่มเครื่องมือไร้สายอย่างเข้มข้น โดยการขยายไลน์สินค้าในกลุ่ม BITURBO รวมถึงสินค้าในกลุ่มไร้สายอื่นๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มความต้องการได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการสื่อสารถึงกลุ่มผู้ใช้ทุกช่องทางทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง สื่อการตลาด ณ จุดขายตามช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงระบบการตลาดแบบดิจิตอล และแอปพลิเคชัน (Bosch BeConnected) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นในการติดต่อกับแบรนด์ ครบถ้วนตามวงจรของผู้ใช้งาน (Seamless User Journey) ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ (Digital Retail) ตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างการเติบโตธุรกิจให้กับพันธมิตรและคู่ค้าในระยะยาวอย่างยั่งยืน
สว่านไร้สาย / สว่านกระแทก GSR / GSB 18V-150 C : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานขันสกรูและเจาะกระแทก ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่านอันทรงพลังที่มีแรงบิดสูงที่ 84/150 นิวตันเมตร ควบคุมด้วยระบบป้องกันการสะบัด (KickBack Control) และระบบ Sensor ที่สามารถวัดความเอียง พร้อมการตรวจจับมุมอิเล็กทรอนิกส์ที่แม่นยำ ช่วยให้สามารถควบคุมแต่ละขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งมาในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 6,590 บาท (GSR 18V-150C (Solo))
สว่านโรตารี่ไร้สาย GBH 18V-45 C : สว่านโรตารี่ไร้สาย SDS Max 3 ระบบ น้ำหนัก 8 กก. ครอบคลุมทุกงานหนัก เหมาะสำหรับการเจาะและสกัดในคอนกรีต หิน และงานก่ออิฐ มีขนาดเจาะ 45 มม. รับแรงกระแทกได้ถึง 12.5 จูล แต่น้ำหนักเบาเพียง 8 กก. ซึ่งเบากว่าเครื่องมือแบบมีสายรุ่นเทียบเท่าถึง 700 กรัม เต็มเปี่ยมด้วยระบบเพื่อความปลอดภัยในผู้ใช้งาน เช่น ระบบป้องกันการสะบัด (KickBack Control) ช่วยลดอันตรายจากสะบัดของเครื่องมือเมื่อเจาะเจอสิ่งกีดขวาง ระบบ Soft Start เพื่อเพิ่มความแม่นยำและสะดวกสบายในการทำงาน ระบบควบคุมแรงสั่นสะเทือน (Vibration Control) ที่จะช่วยลดการสะท้านมือจากการใช้เครื่องมือเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน ในราคาเพียง 34,900 บาท (GBH 18V-45 C (Solo)
Smart Module : Simply Connected : นวัตกรรมการเชื่อมต่อในเครื่องมือไร้สาย ผ่านแอปพลิเคชัน Bosch ToolBox โดยชิปอัจฉริยะ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องมือได้โดยเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน Bluetooth Low Energy ที่ใช้สื่อสารระหว่างเครื่องมือและสมาร์ทโฟน ได้อย่างง่ายดายบนฟังก์ชั่น MyTool เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างเต็มที่ เช่น เช็คเวลาการทำงานของเครื่อง สถานะแบตเตอรี่ ตรวจสอบข้อมูลการผลิต และข้อมูลเทคนิคของตัวเครื่อง รวมถึงสามารถกำหนดและตั้งค่าการทำงานอื่นๆ ของเครื่องได้ นับเป็นประสบการณ์การทำงานรูปแบบใหม่กับเครื่องมือไร้สายได้อย่างลงตัว