บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ผู้ให้บริการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยปัจจุบันสนับสนุนการเดินรถและซ่อมบำรุงแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือ MOU กับ “เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่” ซึ่งเป็นบริษัทฝึกอบรมชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารและการดำเนินงานระบบราง เพื่อส่งเสริมโปรแกรมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมและพัฒนาผู้เชี่ยวชาญการให้บริการระบบราง ผ่านการเสริมสร้างขีดความสามารถ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การแบ่งปันความรู้ การเทียบเคียงกระบวนการทำงานและการดำเนินงาน รวมถึงการทำวิจัยร่วมกันเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองบริษัท โดยเป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้คือเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันผ่านการฝึกอบรม การพัฒนา และการศึกษาความเป็นไปได้ในความร่วมมือต่าง ๆ อันจำนำมาซึ่งประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
ดร. ฮั่ว ตงอี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างเอเชีย เอรา วันกับ เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ ในครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ทั้งสองฝ่ายได้แบ่งปันความรู้พื้นฐานที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงโอกาสในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางในภาพรวมด้วย สำหรับ เอเชีย เอรา วัน เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจพร้อมไปกับการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับผู้โดยสารด้วยมาตรฐานที่เป็นสากล การลงนามใน MOU ฉบับนี้ก็เพื่อดำเนินโครงการฝึกอบรมและสร้างผู้เชี่ยวชาญระบบรางร่วมกัน เราตระหนักดีว่าพนักงานคือหัวใจสำคัญขององค์กร ไม่เพียงเท่านั้น เรายังต้องขอขอบคุณพันธมิตรของเราอย่าง เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ ที่มาร่วมแบ่งปันทักษะและประสบการณ์ ที่นอกเหนือไปจากการแลกเปลี่ยนในด้านอื่น ๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นร่วมกัน”
นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด กล่าวว่า “การลงนามใน MOU ครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งในปัจจุบัน เอเชีย เอรา วัน ทำงานสนับสนุนการดำเนินงานเดินรถและซ่อมบำรุงแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ การเปลี่ยนผ่านจึงถือเป็นหัวใจสำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทย โดยร่วมกันผลักดันให้เกิดความก้าวหน้า ให้สามารถส่งมอบประโยชน์และคุณค่าให้แก่ประเทศชาติและคนไทยได้ พวกเราจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ เพราะการมีพันธมิตรที่เข้มแข็งจะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ นั่นคือการสร้างการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในภาคการขนส่ง และส่งเสริมการเชื่อมต่อเข้ากับโอกาสต่าง ๆ ในหลากหลายมิติอย่างครอบคลุมทุกสาขา เพื่อให้กิจการของเราก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้พนักงานของเราได้ยกระดับศักยภาพที่มี ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าในครั้งนี้และเฝ้ารอที่จะได้ทำงานร่วมกับ เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ ในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาความรู้ร่วมกันในอนาคต”
ดร. เจค็อบ กั๊ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มทีอาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “เรามีความตั้งใจที่จะเชื่อมต่อและสร้างชุมชนต่าง ๆ ให้เติบโตขึ้นภายใต้พันธกิจการให้บริการด้วยความใส่ใจผู้ใช้งาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า องค์กรของเรามีวิสัยทัศน์และพันธกิจที่เน้นย้ำคำมั่นสัญญาของเราที่จะดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยกำหนดแนวทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นในฐานะบริษัทชั้นนำระดับโลก”
“การลงนามใน MOU ในครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเร่งให้เกิดความเป็นเลิศในการพัฒนานวัตกรรมและการบริการของทั้งสองบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางครั้งสำคัญอีกด้วย โดยข้อตกลงฉบับนี้กำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างเอเชีย เอรา วันและเอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ไว้ในหลากหลายด้าน ทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมระบบราง นอกจากนี้ ข้อตกลงนี้ยังกำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาโครงการอื่น ๆ ในอนาคตและเปิดช่องทางใหม่ในการเชื่อมต่อชุมชนคนทำงานในอุตสาหกรรมระบบรางระหว่างไทยกับฮ่องกงด้วย”
น.ส. มาร์กาเร็ต เจ่ง ประธาน เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ กล่าวว่า “เอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่ซึ่งอยู่ภายในเครือเอ็มทีอาร์ คอร์ปอเรชั่น มีดีเอ็นเอของความเป็นเอ็มทีอาร์ที่ทั้งในแง่ของเชื่อมั่นและความเป็นเลิศอยู่อย่างเต็มเปี่ยม โดยเอ็มทีอาร์ อะคาเดมี่มีเป้าหมายที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านการบริหารและดำเนินงานการให้บริการระบบรางในระดับโลกแล้ว เรายังมีบทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการส่งออกความรู้และทักษะระดับมืออาชีพในด้านอุตสาหกรรมระบบรางของฮ่องกง และมีบทบาทในการผลักดันฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางด้านการให้บริการขนส่งระดับโลกด้วย”
“ภายใต้ MOU ฉบับนี้ เราได้กำหนดกรอบข้อตกลงร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างความร่วมมือในหลากหลายด้าน เช่น การเสริมสร้างขีดความสามารถและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการดำเนินงาน การแบ่งปันความรู้ การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเปรียบเทียบสมรรถนะในการปฏิบัติงานและการซ่อมบำรุง รวมถึงการทำงานวิจัยในประเด็นที่ทั้งสองบริษัทมีความสนใจร่วมกัน ดิฉันมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือภายใต้การส่งเสริมการทำงานระหว่างกันในเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะทำให้ทั้งสองบริษัทประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น” น. ส. มาร์กาเร็ต กล่าวเพิ่มเติม